ดันยุทธศาสตร์อุตฯพลาสติก
สศอ.ฝันอีก5ปีเพิ่มรายได้
ส่งออกแตะ2.1แสนล้านบ.
สศอ. เปิดแผนยุทธศาสตร์อุตฯพลาสติก เล็งอัดงบ 1 พันล้านบาท คาดสร้างรายได้รวมมูลค่าทะลุ 7 แสนล้านบาท ภายในปี 2564 นายอุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยถึงการจัดทำแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมพลาสติก 5 ปี (พ.ศ.2559-2564) ว่า สศอ. ได้ร่วมกับภาคเอกชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนยุทธศาสตร์ฯฉบับนี้ ซึ่งได้ผ่านความเห็นชอบจาก คณะกรรมการพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งชาติ (กอช.) แล้ว โดยมีเป้าหมายที่จะขยายการส่งออกผลิตภัณฑ์พลาสติกจาก 20% เป็น 30% ของการผลิต ซึ่งจะทำให้รายได้รวมของอุตสาหกรรมพลาสติกเพิ่มจากปัจจุบันที่มีมูลค่า 520,167 ล้านบาท ไปเป็น 702,884 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 182,717 ล้านบาท เพิ่มมูลค่าการส่งออกจาก 122,503 ล้านบาท ไปเป็น 210,958 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 88,455 ล้านบาท ภายในปี พ.ศ.2564
โดยแผนยุทธศาสตร์นี้ จะประกอบด้วย 3 ยุทธศาสตร์ย่อย ได้แก่ ยุทธศาสตร์ที่ 1 ปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมพลาสติกไทย เพื่อยกระดับการแข่งขัน โดยการเพิ่มผู้ประกอบการขนาดกลางและใหญ่ จากปัจจุบันมีผู้ประกอบการขนาดใหญ่ 12% จะเพิ่มให้เป็น 15% เพิ่มผู้ประกอบการขนาดกลางจาก 20% เป็น 30% และลดผู้ประกอบการขนาดเล็กจาก 68% เหลือ 55% แนวทางการดำเนินงานจะส่งเสริมการควบรวมกิจการ เพิ่มทักษะแรงงาน และให้การสนับสนุนด้านการเงิน รวมทั้งจะต้องขยายการลงทุนไปสู่ชายแดน และภูมิภาคอาเซียน ซึ่งในปัจจุบันการผลิตส่วนใหญ่ 85% จะอยู่ส่วนกลาง โดยภายในปี 2564 จะต้องปรับเปลี่ยนใช้พื้นที่ชายแดนและประเทศเพื่อนบ้านในการผลิตสินค้าพลาสติกทั่วไป และในพื้นที่ส่วนกลางจะปรับไปผลิตสินค้าพลาสติกชั้นสูง
ส่วนยุทธศาสตร์ที่ 2 การยกระดับผลิตภัณฑ์พลาสติกสู่ตลาดมูลค่าสูง เนื่องจากในขณะนี้การผลิตพลาสติกของไทยอยู่ในกลุ่ม C ที่มีประเทศจีน อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ปรับขึ้นไปอยู่ในกลุ่ม B ที่มีประเทศเยอรมนี เบลเยียม เกาหลีใต้ และเนเธอร์แลนด์ และกลุ่ม A ที่มีประเทศญี่ปุ่น สหรัฐ สิงคโปร์ และฮ่องกง โดยภาครัฐจะส่งเสริมโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยี และพัฒนาเครือข่ายด้านการตลาด เพื่อส่งเสริมให้ภาคเอกชนพัฒนาการผลิตออกแบบผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง และยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์พลาสติก
ยุทธศาสตร์ที่ 3 การพัฒนาอุตสาหกรรรมพลาสติกควบคู่สิ่งแวดล้อม โดยการพัฒนาเทคโนโลยีและการจัดการเพื่อ
สิ่งแวดล้อม การรีไซเคิล รวมทั้งการพัฒนาอุตสาหกรรมพลาสติกชีวภาพ โดยการที่จะไปยังเป้าหมาย จะต้องกำหนดกลุ่มผลิตภัณฑ์พลาสติกที่เป็นโปรดักส์แชมป์ของประเทศไทยที่มีมูลค่าสูง ได้แก่ กลุ่มบรรจุภัณฑ์ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง สามารถยืดอายุของอาหาร และติดฉลากอัจฉริยะที่จะเปลี่ยนสีไปตามอายุของผลิตภัณฑ์ เป็นต้น กลุ่มพลาสติกวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ และกลุ่มพลาสติกชีวภาพที่สามารถย่อยสลายได้
สำหรับงบประมาณที่ใช้ในยุทธศาสตร์ฯนี้ ภายใน 5 ปี จะใช้งบ 1,008 ล้านบาท แบ่งเป็นการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรม ใช้งบ 185 ล้านบาท เพื่อใช้ในการเพิ่มสัดส่วนผู้ประกอบการขนาดกลางและใหญ่ โดยมีป้าหมายเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตให้ได้ 500 บริษัท พัฒนาแรงงาน 5 พันคน และศึกษาพื้นที่ที่มีศักยภาพ 2 แห่ง เพื่อขยายฐานการผลิตพลาสติกทั่วไป ไปสู่พื้นที่ชายแดนและอาเซียน การเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์จะใช้งบ 287 ล้านบาท โดยจะตั้งศูนย์กลางพัฒนาเทคโนโลยี 1 แห่ง ต่อยอดงานวิจัยและคอมโพสิต 40 งานวิจัย พัฒนาคลัสเตอร์ส่งออก 5 คลัสเตอร์ และพัฒนามาตรฐานผลิตภัณฑ์ 25 มาตรฐาน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี