นายสมเกียรติ ตรีรัตนพันธ์ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.)เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของประเทศ เดือนก.ย. 2558 เท่ากับ 106.28 โดยเมื่อเทียบกับก.ย.ปีก่อน อัตราเงินเฟ้อ ลดลง 1.07% ซึ่งเป็นการติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 9 หากเทียบกับเดือนก่อนหน้าอัตราเงินเฟ้อ ลดลง 0.05% และเมื่อเทียบเฉลี่ย 9 เดือน(ม.ค.-ก.ย.) อัตราเงินเฟ้อ ลดลง 0.9% ทั้งนี้อัตราเงินเฟ้อที่ลดลง เป็นผลมาจากการปรับลดของราคาน้ำมันเชื้อเพลิงลดลง ค่าโดยสารสาธารณะลดลงราคาขายปลีกก๊าซหุงต้มลดลง รวมถึงค่ากระแสไฟฟ้าที่ปรับลดลงด้วย ซึ่งดัชนีราคาผู้บริโภค เดือน ก.ย. ในหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ดัชนีราคาสูงขึ้น 0.11% จากเดือนก่อน ตามการสูงขึ้นของราคาอาหารสด อาหารโทร.สั่ง(เดลิเวอรี่) ส่วนหมวดที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ดัชนีราคาลดลง 0.14% จากเดือนก่อน จากการลดลงของน้ำมันเชื้อเพลิงขายปลีกในประเทศ ค่ากระแสไฟฟ้า ก๊าซหุงต้มค่ารถโดยสารสาธารณะ เป็นต้น
“การที่ราคาอาหารโทร.สั่ง (เดลิเวอรี่) มีการปรับสูงขึ้น แม้ราคาค่าขนส่ง ค่าน้ำมันเชื้อเพลิงติดลบ ก็ได้มีการสอบถามผู้จำหน่ายผู้ให้บริการ ซึ่งระบุว่า สินค้าประเภทนี้มีการกำหนดราคาเอาไว้แล้ว หากมีการเข้าไปยุ่งเรื่องราคา โดยปรับเปลี่ยนขึ้นๆ ลงๆ บ่อย เป็นเรื่องที่ลำบากกับสินค้าประเภทนี้ ซึ่งต่างกับราคาอาหารสดที่ราคาปรับเปลี่ยนได้ง่าย ดังนั้นเมื่อต้นทุนลดลง ก็จะใช้วิธีการอื่นๆ แทน เช่น การเพิ่มในส่วนของปริมาณอาหารให้แทน ซึ่งสินค้าอาหารโทร.สั่ง จะคล้ายๆ กับกลุ่มสินค้าที่ไม่ใช่อาหาร”
สำหรับการสำรวจสินค้าสำคัญ 450 รายการ มีสินค้าที่ปรับตัวสูงขึ้น 184 รายการ เช่น เนื้อสุกร มะนาว อาหารโทร.สั่งสบู่ หัวหอมแดง ค่าเช่าบ้าน ยาสีฟัน ไข่ไก่ผลไม้สดบางชนิด ก๊าซธรรมชาติ เป็นต้น ส่วนสินค้าที่ราคาทรงตัว ไม่เปลี่ยนแปลง มี 160 รายการ และสินค้าที่ปรับลดราคาลงมี 106 รายการ เช่น ขนมอบ ผักสดบางชนิด น้ำมันพืช แป้งทาผิวซอสพริก ซอสมะเขือเทศ ก๊าซหุงต้มค่ากระแสไฟฟ้า ค่ารถโดยสารประจำทาง น้ำมันเชื้อเพลิง เป็นต้น
“แม้เงินเฟ้อจะติดลบต่อเนื่องกัน 9 เดือน ตั้งแต่ม.ค. 2558 แต่ก็ยืนยันว่า ไม่เป็นภาวะเงินฝืด เพราะดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน ที่หักกลุ่มอาหารสด และพลังงานออก ของเดือนก.ย. ยังคงขยายตัวสูงขึ้นที่ 0.96% อีกทั้งภาษีมูลค่าเพิ่มที่คลังเก็บได้ยังสูง แสดงว่าการใช้จ่ายยังคงมีอยู่ และตัวหลักที่ทำให้เงินเฟ้อทั่วไปลดลง คือ ราคาน้ำมันที่ลด ทำให้ต้นทุนลด”
อย่างไรก็ตาม ทางกระทรวงพาณิชย์ได้มีการปรับเป้าคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อทั้งปี 2558 ใหม่ ว่าจะอยู่ในกรอบ -1 ถึง -0.2% ภายใต้อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ(จีดีพี) 2.5-3.5% ราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ 48-58 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 33-35 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นการปรับลดลงจากคาดการณ์เดิมที่คาดไว้ว่าจะขยายตัว 0.6 ถึง 1.3% ตามสมมุติฐานเดิมที่ ราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ 50-60 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 32-34 บาทต่อเหรียญสหรัฐ โดยการปรับลดคาดการณ์ลงครั้งนี้ เนื่องจากการขยายตัวของเศรษฐกิจมีการปรับลดลง ราคาน้ำมันที่เดิมคาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นในช่วงปลายปี กลับมีแนวโน้มราคาลดลง อีกทั้งเป็นการปรับคาดการณ์เงินเฟ้อทั่วไปติดลบครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 2552 ที่เงินเฟ้อเคยติดลบ 0.9%
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี