รมว.พลังงาน เปิดแผนปี’59 ลงทุน 6.9 แสนล้านบาท พร้อมเดินหน้าแผนพลังงาน 5 แผน ขณะที่ กบง. คงราคาขายปลีกก๊าซ LPG เดือนต.ค.ไว้ที่ 22.29 บาท/กก. ขณะที่ผู้ค้าน้ำมันปรับลด E20 ที่ 54 สต. และหั่น E85 รวดเดียว 2.14 บาท ทั้งนี้เพื่อสนับสนุนการใช้เอทานอล
พลเอกอนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พลังงาน เปิดเผยผลการดำเนินนโยบายของกระทรวง หลังเข้ารับตำแหน่ง ในระยะแรกจะเน้นการประสานกับทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงให้วิเคราะห์จุดอ่อน-จุดแข็งของแต่ละโครงการ ก่อนจัดทำเป็นแผนงานที่ชัดเจน โดยในปีงบประมาณ 2559 วางแผนลงทุนโครงการต่างๆ รวม 6.9 แสนล้านบาท ได้แก่ การก่อสร้างระบบสายส่งไฟฟ้าขนาด 500 กิโลโวลต์ ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ มูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านบาท การวางระบบท่อก๊าซธรรมชาติ รวมถึงการก่อสร้างคลังเก็บก๊าซแอลพีจี และก๊าซธรรมชาติเหลว หรือแอลเอ็นจี เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ
ส่วนการแก้ไข พ.ร.บ.ปิโตรเลียม พ.ศ.2514 ตามข้อเรียกร้องของภาคประชาชน จะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จ ก่อนเสนอให้ที่ประชุม ครม. พิจารณาเห็นชอบภายในเดือนต.ค.นี้
นอกจากนี้ ยังเตรียมเดินหน้าแผนพลังงงาน 5 แผน อาทิ แผนก๊าซธรรมชาติ และแผนน้ำมันเชื้อเพลิงในปีหน้า หลังจากขณะนี้ผ่านการเห็นชอบจาก ครม. แล้ว ส่วนแนวทางการอนุรักษ์พลังงาน เบื้องต้นได้สนับสนุนให้หน่วยงานราชการเปลี่ยนไปใช้หลอดไฟชนิด LED เพื่อลดการใช้พลังงานแล้ว อีกทั้งยังเตรียมสนับสนุนเงินกู้ให้ภาคเอกชน นำไปดำเนินการเปลี่ยนเป็นหลอดไฟ LED ด้วยเช่นกัน
ขณะที่การแบ่งสัดส่วนเชื้อเพลิงเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า ในแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าระยะยาว หรือพีดีพี 2015 ซึ่งกำหนดให้ถ่านหินอยู่ที่ 25% พลังงานทดแทน 30% และก๊าซธรรมชาติ 40% มองว่าเป็นระดับที่เหมาะสมแล้วต่ออัตราค่าไฟฟ้าในอนาคต และการกระจายความเสี่ยงจากการใช้เชื้อเพลิงแต่ละประเภท
ทั้งนี้ได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการพื่อศึกษาโครงสร้างของกระทรวงพลังงานหลังมีการก่อตั้งมา 13 ปี เพื่อใหการดำเนินงานครอบคลุมทุกส่วนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งอาจะมีการยุบ หรือเพิ่มหน่วยงานใหม่ๆ ขึ้นแต่หากการศึกษาพบว่าเหมาะสมก็คงไม่มีการปรับแต่อย่างใด
รมว.พลังงาน ยังกล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) มีมติปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนสำหรับก๊าซ LPG ประจำเดือนต.ค.จาก 92 สต.ต่อกก. เหลือ 8.27 สต.ต่อ กก. เนื่องจากขณะนี้กองทุน LPG มีสถานะเป็นบวกกว่า 8,221 ล้านบาท แต่เมื่อประกอบกับต้นทุนจัดหาที่เพิ่มขึ้นถึง35 เหรียญสหรัฐต่อตัน รวมถึงค่าเงินบาทที่อ่อนค่าซึ่งจะทำให้ราคาขายปลีก LPG ในประเทศ จะยังคงเดิมที่ 22.29 บาทต่อกิโลกรัม
ทั้งนี้จะมีการปรับเพิ่มอัตราเงินชดเชยจากกองทุนน้ำมันสำหรับ E20 จาก 1.90 บาทต่อลิตร เป็น 2.40 บาทต่อลิตร และปรับเพิ่มอัตราเงินชดเชยในส่วนของ E85จาก 7.23 บาทต่อลิตร เป็น 9.23 บาทต่อลิตร ส่งผลให้ราคาขายปลีกของ E20และ E85 สามารถปรับลดลงได้อีก
ทั้งนี้จะช่วยให้ประชาชนหันมาใช้น้ำมันเอทานอลมากยิ่งขึ้นและจะสามารถหนุนให้เกษตรกรผู้ปลูกอ้อย และมันสำปะหลัง มีรายได้เพิ่มขึ้น
สำหรับสถานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ 43,612 ล้านบาท เป็นกองทุนน้ำมันเป็นบวกอยู่ที่ 35,291 ล้านบาท กองทุนแอลพีจี 8,221 ล้านบาท
ส่วนความคืบหน้าการปรับลดราคาแก๊สโซฮอล์ 91 และ 95 ให้ใกล้เคียงกันนั้นจะประเมินจำนวนผู้ใช้น้ำมันในแต่ละชนิด ก่อนที่จะพิจารณายกเลิกหัวจ่ายน้ำมันชนิดใดชนิดหนึ่ง คาดว่าจะต้องใช้เวลาอีก 2-3 เดือน ก่อนที่จะได้ข้อสรุป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการประชุมกบง.เสร็จสิ้นลง ทาง บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) และบริษัทบางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ก็ได้ประกาศปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 ที่ 0.54 บาท/ลิตร ส่วน E85 ปรับลดลงถึง 2.14 บาท/ลิตร ตามมติ กบง. ที่ปรับลดอัตราเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง มีผลวันที่ 3 ต.ค. 2558 เวลา 00.01 น. โดยราคาใหม่เป็นดังนี้
เบนซิน 95 อยู่ที่ 33.76 บาท/ลิตร แก๊สโซฮอล์95 อยู่ที่ 26.80 บาท/ลิตร แก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 26.38 บาท/ลิตร E20 อยู่ที่ 24.44 บาท/ลิตร E85 อยู่ที่ 20.34 บาท/ลิตร ดีเซล อยู่ที่ 23.29 บาท/ลิตร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี