พบยอดผู้ใช้บริการ 3G ของ “ทีโอที” หดเหลือเพียง 1 แสนเลขหมาย จากเดิม 4 แสนเลขหมาย เผยเป็นธุรกิจที่ลงทุน 2 หมื่นล้าน แต่มีปัญหาโครงข่ายไม่ครอบคลุม สัญญาณบริการมีปัญหา เล็งหาทางออกด้วยการดึงพันธมิตรเอกชนเข้ามาฟื้นฟู
แหล่งข่าวจาก บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตามที่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) หรือ TOT ได้เปิดให้บริการ 3G บนคลื่นความถี่ 2.1 กิกะเฮิรตซ์ (GHz) หรือ TOT 3G อย่างเต็มรูปแบบ เมื่อปลายปี 2554 ด้วยเงินลงทุนไปกว่า 20,000 ล้านบาท นั้น ล่าสุด มีลูกค้าเหลืออยู่เพียง 1 แสนเลขหมาย จากก่อนหน้านี้มีลูกค้าที่ใช้บริการราว 4 แสนเลขหมาย
“ลูกค้าได้ทยอยยกเลิกใช้บริการ และ ย้ายค่ายเบอร์เดิม (นัมเบอร์พอร์ตทิบิลิตี้) ไปอยู่กับผู้ให้บริการค่ายใหญ่อื่นๆ และเมื่อไม่มีการใช้งานเพิ่ม ทำให้ค่าใช้จ่ายให้บริการของสถานีฐาน จะมีอัตราการด้อยค่าของทรัพย์สินที่อัตราวันละ 13 ล้านบาท หรือปีละ 10,000 ล้านบาท”แหล่งข่าวกล่าว
ขณะเดียวกันเมื่อไม่มีการใช้บริการเพิ่มของลูกค้า ทำให้ไม่มีการบำรุงรักษาการให้บริการสถานีฐาน รวมถึงการไม่ต่อสัญญากับผู้ประกอบการเอกชน (ผู้ให้บริการอินเตอร์เนตภายในอาคาร หรืออินบิวดิ้ง) ทำให้อุปกรณ์ต่างๆ ที่ไม่มีการบำรุงรักษาทรุดโทรมคุณภาพการใช้สัญญาณแย่ลงก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ลูกค้าทยอยยกเลิกการให้บริการ
อย่างไรก็ดีบอร์ดชุดใหม่ที่เข้ามาได้มีนโยบายที่จะช่วยเหลือ ทีโอทีอย่างชัดเจน แต่ก็ยังไม่มีการสั่งการหรือทำงานในโครงการใดที่จะสร้างรายได้ให้ทีโอทีมีรายได้เข้ามา” แหล่งข่าวกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) หรือ TOT ได้เริ่มทดลองเปิดให้บริการ TOT 3G เมื่อปี 2552 และได้เปิดบริการอย่างเต็มรูปแบบ เมื่อปลายปี 2554 แต่พบว่า ณ ปลายปี 2556 มีลูกค้าบนโครงข่าย TOT 3G มีทั้งหมด 4.2
แสนราย ทั้งนี้ ทีโอที ได้ให้เอกชนเข้ามาเป็นผู้ให้บริการในลักษณะการขายส่ง ขายต่อบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือ เอ็มวีเอ็นโอ อาทิ บริษัท เอ็มคอมซัลท์เอเชีย จำกัด ให้บริการภายใต้แบรนด์ MOJO3G, บริษัท ล็อกซเล่ย์ โมบาย จำกัด ในเครือ บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) ให้บริการภายใต้แบรนด์ TuneTalk, บริษัท ไออีซี เทคโนโลยี จำกัด ในเครือ บริษัท อินเตอร์แนชั่นเนิล เอนจีเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือไออีซี ให้บริการภายใต้แบรนด์ IEC 3G และบริษัท ไอ-โมบายพลัส จำกัด ในเครือ บริษัท สามารถ ไอ-โมบาย จำกัด (มหาชน) หรือ SIM แบรนด์ i-mobile3GX โดยจำนวนลูกค้า 4.2 แสนราย
ทั้งนี้อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ การทำตลาดมียอดลูกค้าต่ำกว่าเป้าหมายมาจากโครงข่ายที่ไม่ครอบคลุมพื้นที่ ขณะที่เอกชนที่ทำตลาดแบบเอ็มวีเอ็นโอไม่สามารถสร้างยอดลูกค้าตามเป้า
แหล่งข่าวใน ทีโอที กล่าวเพิ่มเติมถึงการหาพันธมิตรทางธุรกิจใหม่เข้ามาร่วมธุรกิจ ตามนโยบายของคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.)ว่า ทีโอที จะมีการหาพันธมิตรใน 6 กลุ่มธุรกิจ คือ 1.กลุ่มโครงสร้างพื้นฐานให้บริการให้เช่าเคเบิลใยแก้วนำแสงและวงจรสื่อสัญญาณ 2.กลุ่มเสาโทรคมนาคม ดำเนินธุรกิจให้บริการเช่าใช้พื้นที่สำหรับติดตั้งสายส่งสัญญาณ จานรับส่งสัญญาณโทรคมนาคม และอุปกรณ์อื่นที่เกี่ยวข้อง 3.กลุ่มอินเตอร์เนตเกตเวย์และเคเบิลใต้น้ำระหว่างประเทศ 4.กลุ่มโทรศัพท์ ดำเนินธุรกิจให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ครบวงจร 5.กลุ่มโทรศัพท์ประจำที่และอินเตอร์เนตบรอดแบนด์ ดำเนินธุรกิจให้บริการโทรศัพท์ประจำที่ สื่อสารแบบมีสายหรือไร้สาย และ 6.กลุ่มบริการด้านไอที ไอดีซี คลาวด์ ดำเนินธุรกิจอินเตอร์เนตศูนย์ข้อมูล (ดาต้า เซ็นเตอร์)
ก่อนหน้านี้มีพันธมิตรทางธุรกิจที่ได้เสนอตัวเข้ามากับทีโอที 5 ราย ได้แก่ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส, บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE, บริษัท สามารถ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท โมบายแอลทีอี จำกัด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี