นายประพันธ์ ศิริวิริยะกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ KTIS เปิดเผยถึงโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลจากชานอ้อย ว่า ปัจจุบันกลุ่ม KTIS มีโรงไฟฟ้าที่ใช้ชานอ้อยเป็นเชื้อเพลิง กำลังการผลิต 60 เมกะวัตต์ และอยู่ระหว่างการก่อสร้างอีก 2 โรง มีกำลังการผลิตโรงละ 50 เมกะวัตต์ รวมทั้ง
3 โรง จะมีกำลังการผลิต 160 เมกะวัตต์
ทั้งนี้ โรงไฟฟ้าชีวมวลใหม่โครงการแรกอยู่ที่อุตรดิตถ์ ใช้เงินลงทุน 960 ล้านบาท โครงการที่ 2 อยู่ที่นครสวรรค์ ใช้เงินลงทุน 960 ล้านบาท เช่นกัน ทั้ง 2 โรงใหม่นี้ กลุ่ม KTIS ต้องการให้ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ปลอดภัยสูงสุด และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จึงใช้เทคโนโลยีใหม่ที่สามารถผลิตไอน้ำแรงดันสูง ทำให้ผลิตไฟฟ้าได้มากกว่าเทคโนโลยีการผลิตไอน้ำแรงดันต่ำ เมื่อเทียบจำนวนเชื้อเพลิงเท่ากัน
“นอกจากโรงไฟฟ้าชีวมวลแห่งใหม่จะสร้างรายได้และผลกำไรที่มากขึ้นแล้ว ยังรองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าในอนาคตที่จะ
เพิ่มขึ้นจากโครงการขยายกำลังการผลิตน้ำตาลและธุรกิจต่อเนื่องอื่นๆ ด้วย เพราะไฟฟ้าที่ผลิตได้จะนำมาใช้ในกลุ่ม KTIS ก่อน ส่วนที่เหลือจึงจะขายให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย” นายประพันธ์ กล่าว
สำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่ในสายธุรกิจน้ำตาล คือโครงการผลิตน้ำเชื่อม (Liquid Sucrose) มีกำลังการผลิต 400 ตันต่อวัน และโครงการผลิตน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์พิเศษ (Super Refined Sugar) มีกำลังการผลิต 500 ตันต่อวัน ได้ก่อสร้างโรงงานและติดตั้งเครื่องจักรเกือบเสร็จสมบูรณ์แล้ว โดยจะเริ่มผลิตได้ภายในไตรมาส 4 ปี 2558
ทั้งนี้ สัดส่วนรายได้ของ KTIS ในปัจจุบัน ส่วนใหญ่ยังมาจากการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลและกากน้ำตาล 74% สายชีวพลังงานและผลิตภัณฑ์ 26% ซึ่งในปี 2559 จะเริ่มเห็นชัดเจนว่าสัดส่วนรายได้จากสายธุรกิจชีวพลังงานจะเพิ่มมากขึ้น และจะส่งผลดีต่ออัตราการทำกำไรของ KTIS ด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี