นายกสมาคมผู้ค้าส่ง-ปลีกรายย่อย เผยยอดขายสินค้าดีขึ้น เหตุเป็นช่วงเทศกาล รัฐกระตุ้นเศรษฐกิจอัดฉีดเงินเข้าระบบ ประชาชนมีอำนาจจับจ่ายเพิ่ม พร้อมแนะรัฐบาล จัดตลาดส่งเสริมการขายให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีรายย่อยอย่างจริงจัง เพื่อสร้างผู้ประกอบการรายใหม่ เพิ่มช่องทางจำหน่ายให้ผู้ประกอบการรายเดิม
นายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมค้าส่ง-ปลีกไทย กล่าวว่า สถานการณ์ค้าของผู้ประกอบการรายย่อยในขณะนี้ถือว่าดีขึ้นจากช่วงก่อนหน้า เนื่องจากเป็นช่วงเทศกาล เช่น เทศกาลกินเจ ออกพรรษา และก่อนหน้านี้ก็มีเทศกาลสารทจีน เป็นต้น ขณะเดียวกันก็มีเม็ดเงินจากการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลเข้ามาหมุนเวียนในระบบ แม้จะไม่มากนัก แต่ก็มีการกระจายไปยังต่างจังหวัด ทำให้ผู้บริโภคมีเงิน และกล้าใช้จ่าย
ทั้งนี้ในส่วนของผู้ประกอบการค้าส่ง ค้าปลีก ก็สามารถดำเนินกิจการได้ในระดับที่ไม่น่าเป็นห่วง ประกอบกับผู้ประกอบการแต่ละแห่ง มีการปรับตัวให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคในบริเวณรอบๆ อีกทั้งกลุ่มผู้ผลิตและผู้ประกอบการ ก็มีความร่วมมือกันในการจัดจำหน่ายสินค้าในราคาที่ไม่สูงมาก ส่งผลให้ผู้บริโภคมีทางเลือก และกล้าใช้จ่ายมากขึ้นด้วย
ในส่วนของสมาคม ปัจจุบันมีสมาชิกที่เป็นผู้ประกอบการค้าส่งอยู่ประมาณ 100 กว่ารายทั่วประเทศ และผู้ค้าส่งแต่ละรายก็จะมีสมาชิกผู้ค้าปลีกย่อยอีกรายละ 300-1,000 ราย แล้วแต่รายไป ซึ่งในส่วนสมาชิกสมาคม ก็มีการหารือ และปรับตัวให้ทันต่อการค้าขายให้ทันสถานการณ์อยู่เสมอ แต่ละพื้นที่ก็จะมีการกิจกรรมการจำหน่ายสินค้าให้ที่เหมาะสมกับพื้นที่ของตน
ขณะเดียวกันทางสมาคมก็ได้ร่วมมือกับภาครัฐ หรือกระทรวงพาณิชย์ ในการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆ อยู่อย่างต่อเนื่อง เช่น โครงการฉลาดซื้อ ประหยัดใช้ โครงการเทใจคืนสุขสู่ประชาชน เป็นต้น ซึ่งในช่วงปลายปี สมาชิกของสมาคม ก็จะร่วมมือกับภาครัฐในการทำโครงการเทใจคืนสุขสู่ประชาชน อีกครั้ง ซึ่งทางผู้ค้าส่ง ค้าปลีก ก็ยินดีให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมทุกครั้ง เพราะเห็นว่าเป็นโครงการที่ได้ประโยชน์ทั้งผู้ขายที่สามารถขายสินค้าได้ และผู้บริโภคที่สามารถซื้อสินค้าได้ในราคาที่เหมาะสม
อย่างไรก็ตาม ก็อยากเสนอให้รัฐบาลพิจารณาการจัดสรรพื้นที่ให้ผู้ประกอบการ เอสเอ็มอีทั้งรายเก่า และรายใหม่ มีตลาดหรือช่องทางจำหน่ายสินค้าที่สามารถนำสินค้ามาวางขายได้ฟรี หรือมีต้นทุนค่าเช่าที่ต่ำ อย่างจริงจังมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการรายใหม่ๆ ที่มีความคิดสร้างสรรค์สินค้า ต้องการทดลองตลาด หากิจกรรมเสริมนอกจากอาชีพหลัก แต่มีต้นทุนไม่สูง จะได้สามารถนำสินค้ามาวางจำหน่ายได้ โดยอาจมีการจัดขึ้นเพียงเดือนละ 1-2 ครั้ง แต่เป็นกิจกรรมที่ต่อเนื่อง
ทั้งนี้เชื่อว่าจะเป็นการช่วยส่งเสริมการสร้างผู้ประกอบการเอสเอ็มอีรายใหม่ที่มีคุณภาพในอนาคตได้ อีกทั้งยังเป็นการช่วยเพิ่มประสบการณ์ให้ผู้ประกอบการ ได้ทดลองตลาดสินค้าของตน และยังเป็นการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระดับล่างได้อีกด้วย และการที่รัฐช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจระดับล่าง โดยการให้ประชาชนกู้เงิน เป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ทางหนึ่งก็จริง แต่ก็ยังเป็นการแก้ที่ไม่ตรงจุด เพราะหากในช่วงที่เศรษฐกิจไม่ดี รัฐก็จะปล่อยกู้ตลอดคงเป็นเรื่องยาก ดังนั้นรัฐอาจต้องช่วยแก้ไขผ่านโครงการระยะยาว และยั่งยืนมากกว่า
“วันนี้ไทยมีผู้ประกอบการเอสเอ็มอีจำนวนมาก แต่ไม่มีที่ขายสินค้า เพราะพื้นที่จำหน่ายมีการเก็บค่าเช่าในอัตราที่สูง ทำให้ผู้ประกอบการรายเล็กๆ หมดโอกาสไปมาก หากว่ารัฐต้องการส่งเสริม สร้างผู้ประกอบการรายใหม่ กลุ่มผู้ค้าที่มีความคิดสร้างสรรค์ผลิตสินค้าใหม่ๆ นักเรียน นักศึกษา ข้าราชการ คนที่มีงานประจำแต่ต้องการหารายได้เสริม ให้มีรายได้เพิ่ม และได้ทดลองสินค้าของตนในตลาดของจริง รัฐอาจต้องมีการทำกิจกรรมส่งเสริมมือใหม่หัดขายขึ้น ซึ่งอาจไม่ต้องทำทุกวัน แต่รัฐต้องมีการช่วยประชาสัมพันธ์ และหาสถานที่จำหน่ายให้อย่างเหมาะสม ก็เชื่อว่าจะเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับล่างได้อีกช่องทางหนึ่ง”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี