นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต กระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ผู้ประกอบการเอกชนได้เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยได้ขอให้เลื่อนการคำนวณภาษีแบบใหม่ โดยนำราคาขายปลีกมาเป็นฐานการเก็บภาษีสรรพสามิตแทนราคาหน้าโรงงาน หรือราคาสำแดงนำเข้า โดยผู้ประกอบการเกรงว่าจะทำให้ราคาสินค้าแพงขึ้น
อย่างไรก็ดีเรื่องการดำเนินการดังกล่าวยังอยู่ระหว่างการพิจารณาแก้ไขกฎหมายของ กรมสรรพสามิต 7 ฉบับ ให้เหลือฉบับเดียว ล่าสุดอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา และต้องผ่านการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ด้วย
ก่อนหน้านี้ ร่างกฎหมายดังกล่าวผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) และมีมติชัดเจนว่า ในการแก้กฎหมายกรมสรรพสามิตจะต้องเก็บรายได้ไม่เพิ่มขึ้นมากกว่าที่เก็บอยู่ เพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อราคาสินค้า ทำให้เป็นภาระผู้ประกอบการส่งไปถึงผู้บริโภค
สำหรับร่างกฎหมาย ยังมีบทเฉพาะกาลระบุว่าการเก็บภาษีจากราคาขายปลีกจะมีผล 180 วัน หลังจากกฎหมายมีผลบังคับใช้ ซึ่งในช่วงก่อนกฎหมายมีผลทาง กรมสรรพสามิต จะต้องมาพิจารณาการลดอัตราภาษีของสินค้าแต่ละตัว หากสินค้าประเภทไหนมีภาระภาษีเพิ่มขึ้นจากการเปลี่ยนการเก็บภาษีมาเป็นราคาขายปลีก และจะลดอัตราภาษีสินค้าดังกล่าวลง เพื่อไม่ให้กระทบกับผู้ประกอบการและผู้บริโภค
“การแก้ไขกฎหมายที่จะมีการเปลี่ยนแปลงการเก็บภาษีมาเป็นราคาขายปลีก ไม่ได้หวังรายได้เพิ่มขึ้น แต่ต้องการทำให้เกิดความเป็นธรรมการเก็บภาษีของผู้ผลิตในประเทศและผู้นำเข้าเป็นสำคัญ” นายสมชาย กล่าว
สำหรับการเก็บภาษีรถยนต์ใหม่ที่จะเริ่มเก็บวันที่ 1 ม.ค. 2559 โดยเก็บจากการคิดตามความจุกระบอกสูบมาเป็นคิดตามการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หรือ CO2 เป็นเรื่องที่ผู้ประกอบการเตรียมตัวมา 3 ปี แล้ว และการเปลี่ยนแปลงมีผลทั้งทำให้ภาระภาษีลดลงเท่าเดิม หรือมากขึ้น แล้วแต่ว่ารถยนต์ที่ผลิตออกมามีการปล่อย CO2 อย่างไร
นายสมชาย กล่าวว่า ในปีงบประมาณ 2559 กรมได้รับเป้าหมายการเก็บรายได้ 4.96 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 12% ซึ่งการเก็บรายได้อยู่ภายใต้การปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลเป็น 5 บาทต่อลิตร จากปัจจุบันเก็บอยู่ 4.25 บาทต่อลิตร ซึ่งจะมีการปรับขึ้นหรือไม่อยู่ที่การตัดสินใจของฝ่ายนโยบาย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี