‘ทรู-เอไอเอส’คว้า4จี
8หมื่นล้าน!
ประมูลเดือด86รอบ30ชม.
‘ดีแทค-จัสมิน’ถอดใจถอย
ชงกสทช.รับรองผล18พ.ย.
วันที่ 12 พฤศจิกายน ที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการประมูลใบอนุญาต 4 จี คลื่นความถี่ย่าน 1800 เมกะเฮิรตซ์ (MHz) เป็นวันที่สองในการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมย่าน 1800 MHz ที่เป็นการจัดสรรคลื่นความถี่ด้วยการประมูลตามพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2553 จำนวน 2 ใบอนุญาต ใบละ 15 เมกะเฮิร์ตซ
โดยมีผู้เข้าร่วมประมูล 4 รายคือ บริษัท แจส โมบาย บรอดแบรนด์ จำกัด ของกลุ่มจัสมิน บริษัทดีแทค ไตรเน็ต จำกัด ในเครือ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด (เอดับบลิวเอ็น) ในเครือ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส และบริษัท ทรูมูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด ในเครือ บริษัท ทรูคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE
ทั้งนี้ บรรยากาศการประมูลวันที่สอง ดำเนินไปอย่างต่อเนื่องมาจากวันที่ 11 พฤศจิกายนจนถึงเวลา 11.00 น.วันนี้ โดยผู้เข้าร่วมประมูลทั้ง 4 บริษัท ต่างเสนอราคาสู้กันอย่างเข้มข้นดุเดือด
ถึงประมูลรอบ 75 ใบอนุญาตที่ (Lot) 1 ราคาประมูลอยู่ที่ 37,006 ล้านบาท และชุดที่ 2 ราคาอยู่ที่ 37,404 ล้านบาท รวม 2 ใบอนุญาต มูลค่า 74,410 ล้านบาท ก่อนที่คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.)ประกาศพักการประมูล 3 ชั่วโมง ตามคำขอของผู้ประมูล
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังกลับมาเริ่มการประมูลอีกครั้งในเวลา 14.30 น. ผู้เข้าร่วมประมูลทั้ง 4 รายประมูลรอบที่ 76 อย่างเข้มข้น โดยราคาประมูลใบอนุญาที่ 1 อยู่ที่ราคา 37,404 ล้านบาท ใบอนุญาที่ 2 อยู่ที่ 37,802 ล้านบาท มูลค่ารวม 74,808 ล้านบาท
กระทั่งเวลา 16.30 น. พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (รองประธาน กสทช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (ประธาน กทค.) แถลงว่า กทค. ได้รับหนังสือจากผู้เข้าร่วมประมูล 3 รายว่าต้องการขอพักการประมูล เนื่องจากร่างกายอ่อนล้า เป็นผลจากอยู่ในห้องประมูลต่อเนื่องกว่า 24 ชั่วโมง ทำให้ กทค.ประชุมและมีมติให้หยุดประมูลสำหรับวันนี้ ในเวลา 17.30 น. โดยจะเข้าประมูลใหม่วันที่ 13 พฤศจิกายน ตั้งแต่เวลา 10.00 น. ทั้งนี้ ได้มีการส่งทีมแพทย์เข้าไปตรวจสุขภาพความดันของผู้เข้าร่วมประมูลทุกรายแล้ว พบว่ายังปกติดี
พ.อ.เศรษฐพงค์กล่าวว่า การเคาะราคาที่เกือบทะลุ 1 แสนล้านบาท ถ้าถามว่าเป็นราคาที่สูงเกินราคาคลื่นที่เราประเมินไว้หรือไม่ ปัจจุบันอัตราคาบริการต่อจำนวนประชากรคิดเป็น 11 บาทต่อ 1 เมกะเฮิรตซ์ แต่ตอนนี้ราคาประมูลที่เพิ่มขึ้นปรับขึ้นไปเป็นราคาต่อเมกะเฮิรตซ์ที่ 18 บาท ซึ่งโอเปอร์เรเตอร์วิเคราะห์มาแล้วว่าอนาคต 5 ปีข้างหน้า จะมีเลขหมายเพิ่มขึ้นถึง 3-4 เท่า ทำให้โอเปอเรเตอร์นำไปต่อยอดธุรกิจได้ในอนาคต
สำหรับผลประมูล 4 จี บนคลื่นความถี่ย่าน 1800 เมกะเฮิรตซ์ จนถึงเวลา 17.30 น. จบที่ 84 รอบ ราคาประมูลรวม 2 ใบอนุญาตอยู่ที่ 80,380 ล้านบาท โดยใบอนุญาตที่ 1 มีผู้เสนอราคาสูงสุดเข้ามา 1 ราย ที่ราคา 39,792 ล้านบาท ส่วนใบอนุญาตที่ 2 มีผู้เสนอราคาสูงสุดเข้ามา 1 ราย ที่ราคา 40,588 ล้านบาท
ด้านนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช.กล่าวถึงกรณีมีผู้เป็นห่วงเรื่องราคาประมูล ที่อาจส่งผลต่ออัตราค่าบริการในอนาคตว่า กสทช.กำหนดไว้ในเงื่อนไขการประมูลตั้งแต่ต้นว่าอัตราค่าบริการ 4จี ต้องถูกกว่าอัตราค่าบริการ 3จี บนคลื่นความถี่ 2.1 เมกะเฮิรตซ์ ที่ให้บริการอยู่ในปัจจุบัน โดยอัตราค่าบริการประเภทเสียงปัจจุบันอยู่ที่ 69-72 สตางค์ต่อนาที และอัตราค่าบริการประเภทดาต้าอยู่ที่ 26 สตางค์ต่อเมกกะไบต์ ซึ่งเท่ากับว่าอัตราค่าบริการ 4G ที่จะเปิดให้บริการในอนาคตต้องถูกกว่านี้ ถ้าผู้ให้บริการไม่ทำตามเงื่อนไข ก็จะถูกลงโทษ ขอให้ประชาชนสบายใจได้
นอกจากนั้น ในเงื่อนไขการประมูลในส่วนการคุ้มครองผู้บริโภค ยังระบุให้ผู้รับใบอนุญาตต้องจัดให้มีแพ็คเก็จราคาประหยัดสำหรับผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาส และผู้มีรายได้น้อยคือ มีรายได้ต่อเดือนไม่เกิน 10,000 บาท โดยผู้รับใบอนุญาตจะต้องส่งแผนต่อ กทค. ก่อนเริ่มให้บริการ และต้องดำเนินการตามแผนภายใน 1 ปี นับจากวันที่เริ่มให้บริการ
ขณะที่นายประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กสทช.ด้านคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคมกล่าวถึงกรณีราคาประมูลที่สูงมากมาจากไหน ตอบว่ามาจากสภาพเฉพาะของประเทศไทย เนื่องจากคลื่นครั้งนี้ให้เวลาสัมปทานมากกว่าปกติ15 ปี เป็น 18 ปี จึงคุ้มกับราคาที่เพิ่ม ตอนประมูลคลื่น 2100 เมกกะเฮิรตซ์เป็นการประมูลย่านความถี่ที่ว่างเปล่าต่อให้ไม่ชนะก็ไม่เสียคลื่น แต่คลื่น 18000 เมกะเฮิรตซ์ มีเอไอเอสกับทรูให้บริการ พอมาประมูลแล้วเอไอเอสและทรูไม่ได้ ก็เท่ากับเขาเสียคลื่นไป และการแข่งขันครั้งนี้มีรายใหม่เข้ามาไล่เคาะราคาทำให้ราคาเพิ่มขึ้นสูง
อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลา 18.04 น. พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ประธาน กทค. แถลงข่าวอีกครั้งว่า หลังบอร์ด กทค.มีมติให้หยุดการประมูลคลื่นความถี่ย่าน 1800 MHz ในเวลา 17.30 น.
เนื่องจากมีผู้เข้าร่วมประมูลร้องขอ แต่เนื่องจากผู้ประมูลไม่สามารถกลับบ้านได้ จึงขอประมูลต่อเนื่อง ซึ่งกทค.จึงมีมติให้ประมูลต่อ โดยเริ่มประมูลรอบที่ 85 เวลา 18.30 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประมูลในรอบที่ 85 โดยใบอนุญาตที่ 1 ไม่มีผู้เคาะประมูล ราคาอยู่ที่ 39,792 ล้านบาท ใบอนุญาตที่ 2 มีผู้เคาะประมูล1 ราย ราคาอยู่ที่ 40,986 ล้านบาท รวม 2 ใบอนุญาต ราคาอยู่ที่ 80,778 ล้านบาท
จากนั้นเวลา 19.05 น. การประมูลสิ้นสุดลงในรอบที่ 86 เนื่องจาก ใบอนุญาตความถี่ที่ 1 ไม่มีผู้เสนอราคาสูงสุด จึงยึดราคาในรอบที่ 83 อยู่ที่ 39,792 ล้านบาท และใบอนุญาตความถี่ใบที่ 2 ไม่มีผู้เสนอราคาสูงสุด จึงยึดราคารอบที่ 85 อยู่ที่ 40,986 ล้านบาท รวม 2 ใบอนุญาตอยู่ที่ 80,778 ล้านบาท และถือว่าการประมูล 4G ความถี่ 1800 เมกะเฮิรตซญ์สิ้นสุดลงที่ราคา 80,778 ล้านบาท
รวมระยะเวลาประมูลตั้งแต่เวลา 10.00 น. วันที่ 11 พฤศจิกายน-17.30 น.วันที่ 12 พฤศจิกายนทั้งหมด 30 ชั่วโมง จำนวน 86 รอบการประมูล มีรายได้ขั้นต่ำคิดเป็นมูลค่าเงินที่ประมูลได้ทั้งสองใบอนุญาตจำนวน80,778 ล้านบาท
ขณะที่รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับบริษัทที่ประมูลใบอนุญาตความถี่ที่ 1 ได้ คือ ทรู ส่วนใบอนุญาตความถี่ที่ 2 คือ เอไอเอส เป็นผู้ชนะการประมูลเหนือดีแทคและจัสมิน
นายสมประสงค์ บุญยะชัย รองประธานกรรมการ บริษัทแอดวานซ์ อินโฟ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอสเปิดเผยภายหลังชนะการประมูล 4G คลื่นความถี่ 1800 เมกะเฮิรตซ์ว่า ดีใจกับผลการประมูล พอใจที่มีโอกาสได้มีส่วนขับเคลื่อนอุตสาหกรรมโทรคมนาคม ต้องขอบคุณ กสทช.และกทค. ส่วนรายละเอียดอื่นยังไม่ขอกล่าวอะไร อย่างไรก็ตาม ราคาที่บริษัทชนะประมูลใบอนุญาตที่ 2 ที่ได้เป็นผู้เสนอราคาสูงสุดที่ 40,986 ล้านบาทนั้น ถือว่าอยู่ในช่วงที่กำหนดไว้ และบริษัทรับได้ในราคาดังกล่าว
ด้านนายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทรูคอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผู้เข้าประมูลมีสปีริตสูงทุกราย การแข่งขันครั้งนี้ถือเป็นการแข่งขันกันหนักพอสมควร แต่ก็ดีใจ พอใจกับผลที่ได้ โดยราคาที่ประมูลได้ เป็นราคาที่รับได้ แม้จะเป็นราคาที่สูงแต่อยู่ในช่วงที่บริษัทคาดการณ์ไว้ ซึ่งราคาที่ประมูลได้เป็นใบอนุญาตที่ 1 ราคา 39,792 ล้านบาท
ขณะที่พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธาน กสทช.และประธาน กทค.เปิดเผย หลังสิ้นสุดการประมูลว่า จากนี้จะรวบรวมผลการประมูล รวมถึงการเคาะราคาแต่ละรอบในวันที่ 17 พฤศจิกายนนี้ และพร้อมรับรองผลการประมูลอย่างเป็นทางการหลังจากนั้นภายใน 90 วัน โดยให้ผู้ชนะการประมูลมาชำระเงินค่าประมูลงวดแรก 50% พร้อมรับใบอนุญาตในวันดังกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี