นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยถึงสถานการณ์การผลิตและการใช้ไฟฟ้า 10 เดือนแรกปี 2558 ว่า มีการผลิตไฟฟ้า 160,644 ล้านหน่วย เพิ่มขึ้น 2.8% การใช้ไฟฟ้า 145,760 ล้านหน่วย เพิ่มขึ้น 3.2% โดยเพิ่มขึ้นเกือบทุกสาขาเศรษฐกิจ ยกเว้นสาขาเกษตรกรรมที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง
ทั้งนี้ไทยยังคงใช้ก๊าซธรรมชาติในการผลิตไฟฟ้าอยู่ในระดับสูง ภาครัฐจึงได้มีการผลักดันให้มีการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นมากกว่า 14% ดังนั้น สนพ.จึงคาดการณ์การใช้ไฟฟ้าตลอดทั้งปี 2558 จะเพิ่มขึ้น 3.1% หรือประมาณ173,863 ล้านหน่วย เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดเป็นช่วงเวลานาน ประกอบกับการขยายตัวของภาคธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจการท่องเที่ยว การบริการ และการก่อสร้าง ซึ่งจะส่งผลให้ความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด (Peak) ในปี 2558 เพิ่มขึ้น 1.5% และได้คาดการณ์ความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดในปี 2559 จะอยู่ที่ระดับ 28,300-29,000 เมกะวัตต์ ขณะที่ระดับเฝ้าระวังของ Peak อยู่ที่ 28,500 เมกะวัตต์
อย่างไรก็ตาม สนพ.เตรียมมาตรการเพื่อลดการใช้ไฟฟ้าสูงสุด ได้แก่ โครงการรวมพลังงานหาร 2เปลี่ยนใหม่ประหยัดชัวร์ รณรงค์เปลี่ยนหลอด LEDใช้เครื่องปรับอากาศระบบ SEER เพื่อรองรับ Peakไฟฟ้าหน้าร้อนที่จะเกิดขึ้น
ส่วนการใช้น้ำมันสำเร็จรูปอยู่ที่ 141 ล้านลิตรต่อวันเพิ่มขึ้น 1.5% เป็นการเพิ่มขึ้นของการใช้เบนซิน ดีเซลและน้ำมันเครื่องบิน ขณะที่ LPG มีการใช้ลดลง 10.3%สัดส่วนการใช้น้ำมันสำเร็จรูปสูงสุด คือ ดีเซล 42%รองลงมาคือเบนซิน 18% และมีการใช้ NGV ลดลง3.3% เนื่องจากราคาน้ำมันปรับตัวลดลง ส่งผลให้ผู้ใช้รถยนต์หันกลับไปใช้น้ำมันแทน ทั้งนี้สอดคล้องกับการคาดการณ์ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ในปี 2559เศรษฐกิจไทยจะขยายตัว 3-4% จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก สนพ.จึงคาดการณ์การใช้พลังงานภาพรวมปี 2559 จะเพิ่มขึ้น2.7-3.5% จากปัจจัยการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ รวมทั้งราคาน้ำมันยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ สนพ.กังวลทิศทางราคาน้ำมันว่าจะขยับขึ้นมากน้อยเพียงใด หลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ2 สัปดาห์ และกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากความตึงเครียดในตะวันออกกลางที่รุนแรงขึ้น หลังเครื่องบินรบของรัสเซียถูกตุรกียิงตกใกล้ชายแดนซีเรีย ทำให้น้ำมันดิบทุกตลาดขยับขึ้นหากสถานการณ์ยืดเยื้ออาจทำให้ราคาน้ำมันดิบดูไบไตรมาส 4 สูงกว่าที่ สนพ.ประเมินว่าจะอยู่ที่ 40-50 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล กลับกันหากเหตุการณ์นี้ทำให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัว จะทำให้ความต้องการใช้น้ำมันลดลง ก็อาจทำให้ราคาน้ำมันดิบปรับลดลงอยู่ที่ 30 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี