น.ส.สุณี เสรีภาณุ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แม็คกรุ๊ปมีแผนขยายกลุ่มสินค้าแฟชั่นมากขึ้น จากเดิมเน้นการทำตลาดในกลุ่มกางเกงยีนส์ ล่าสุดจึงได้เปิดตัวกลุ่มเสื้อเชิ้ตและเสื้อยืด โดยให้บริษัท เพชรเกษมโฮลดิ้ง จำกัด เป็นผู้ผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ “แม็คที” เจาะทุกกลุ่มผู้บริโภค เนื่องจากเป้าหมายหลักในการดำเนินธุรกิจของแม็คกรุ๊ปคือต้องการให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงสินค้าคุณภาพได้อย่างเท่าเทียมกัน ที่นอกจากจะตอบโจทย์ในชีวิตประจำวันของผู้บริโภคแล้ว ยังทำให้ดูดีได้ง่าย รู้สึกดีได้ทุกวัน ในราคาที่จับต้องได้สำหรับทุกคน
สำหรับแผนการทำตลาดในต่างประเทศนั้น ที่ผ่านมาตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดเมียนมา เวียดนาม กัมพูชา และลาว มีอัตราการเติบโตที่ดี แต่ในขณะเดียวกันแม็คกรุ๊ปก็มองโอกาสในการขยายตลาดไปยังประเทศที่มีกำลังซื้อสูง โดยประเทศที่สนใจคือ ฮ่องกง เกาหลี ญี่ปุ่น จีน สิงคโปร์ และมาเลเซีย เป็นต้น ซึ่งประเทศดังกล่าวนอกจากกำลังซื้อสูงแล้ว เศรษฐกิจยังเติบโตค่อนข้างมาก โดยเฉพาะจีนที่มีอัตราการเติบโตสูงถึง 3 เท่า ทั้งนี้ตั้งเป้าหมายว่าภายใน 4-5 ปีข้างหน้า แม็คกรุ๊ปจะก้าวขึ้นเป็นแบรนด์ยีนส์อันดับ 1 ในอาเซียน หรือมีสัดส่วนยอดขายไม่ต่ำกว่า 20-25% ของรายได้รวม จากปัจจุบันสัดส่วนรายได้จากตลาดต่างประเทศมีไม่ถึง 10%
“แม็คกรุ๊ปเชื่อมั่นว่าสิ่งที่ทำให้เป็นเบอร์ 1 ในตลาดอาเซียนได้ เพราะคุณภาพสินค้าที่ไม่แพ้อินเตอร์แบรนด์ และความหลากหลายของสินค้าที่เจาะตรงทุกความต้องการและไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างของลูกค้าในทุกกลุ่ม โดยแม็คยีนส์ เจาะกลุ่มลูกค้าทั่วไปทั้งผู้ชายและผู้หญิง อายุ 25-40 ปี,แม็คมินิ เจาะกลุ่มเด็กอายุ 6-12 ปี, แม็คมี เจาะกลุ่มผู้หญิงอายุ 20-35 ปีที่ต้องการเก็บกระชับทรงและส่วนเกิน, แม็คเลดี้ เจาะกลุ่มผู้หญิงอายุ 15-25 ปี, แม็คพิงค์ เจาะกลุ่มแฟชั่นผู้หญิง ที่เป็นวัยรุ่น คนรุ่นใหม่, แม็ค แม็ค เจาะกลุ่มแฟชั่นยีนส์ที่ราคาไม่สูงมาก และเดอะบลูบราเธอร์เจาะกลุ่มลูกค้าระดับบน ที่ต้องการความแตกต่างไม่เหมือนใคร นอกจากนี้ยังมีนาฬิกาแบรนด์ชั้นนำจากทั่วโลก ของบริษัท ไทม์ เดคโค่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ที่มีนาฬิกากว่า 23 แบรนด์ ที่นำเข้ามาจำหน่ายในร้านเครือข่ายแม็คกรุ๊ปด้วย” น.ส.สุณี กล่าว
ส่วนผลประกอบการในช่วง 9 เดือนแรกปี 2558 เติบโต 8% หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 2,606 ล้านบาทโดยทั้งปี 2558 คาดว่าจะเติบโตได้ 12% จากปี 2557 ที่มีรายได้ 3,537.60 ล้านบาท จากการขยายสาขาประมาณ 60 สาขา ซึ่งจะทำให้สิ้นปี 2558 มีสาขาทั้งหมด 860 สาขา ขณะที่กำไรสุทธิน่าจะทำได้ใกล้เคียงกับปี 2557 ที่ระดับ 711.64 ล้านบาท
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี