พาณิชย์เผย ผู้ประกอบการทยอยลดราคาสินค้าลง พร้อมกำชับผู้ประกอบการ หั่นราคาสินค้าต่อเนื่อง เผยอยู่ระหว่างพิจารณาลดราคา สินค้าน้ำปลา ของใช้ในชีวิตประจำวัน และทบทวนราคายางรถยนต์
นางสาววิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ราคาสินค้าในปี 2559 จะคงทรงตัว เนื่องจากราคาน้ำมันที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกรมจะดูแลในด้านเรื่องต้นทุนให้สอดคล้องกับราคาสินค้า รวมถึงต้องดูแลราคาสินค้าเกษตรไม่ให้ตกต่ำ เพราะได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมัน ทั้งนี้ที่ผ่านมา กรมกำกับดูราคาสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพให้ปรับลดลงตามราคาต้นทุนที่ลดลง และได้หารือกับผู้ประกอบการ ผู้ผลิตสินค้า เพื่อขอความร่วมมือผู้ประกอบการให้ปรับลดราคาลง
“น้ำมันที่ลดลงมามากผิดปกติ แต่คาดว่าจะอยู่ในระดับ 20 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งราคาน้ำมันที่ลดจะมีผลโยงไปถึงสินค้าเกษตรให้ชะลอตัวตามน้ำมัน ดังนั้น กรม จะต้องเข้าไปดูราคาสินค้าเกษตรให้ราคาสูงขึ้นในขณะที่ราคาน้ำมันไม่สูง และในส่วนสินค้าอุตสาหกรรม จะทำอย่างไรให้ไม่สูง เพราะราคาน้ำมันต่ำ ซึ่งจะเป็นงานที่กรมจะต้องดูแลอย่างใกล้ชิด”
ทั้งนี้ตั้งแต่ในเดือน ม.ค. 2559 ที่ผ่านมา ผู้ประกอบการได้แจ้งลดราคาสินค้า และทยอยลดราคาสินค้าลงมาแล้วอย่างต่อเนื่อง 11 สินค้า 69 รายการ ซึ่งเป็นการลดราคาลงจากเดิม 1.6-25% เช่น นมผงตราคาร์เนชั่น ลดลง 12.24-14.5% และตราหมีแอดวานซ์ ลดลง 10-13.03%, นมถั่วเหลืองคือ นมยูเอชทีตราดีน่า ลดลง 19.55% และนมพาสเจอร์ไรส์ตราดีน่า ลดลง 14.47%, นมเปรี้ยวคือ นมพาสเจอร์ไรส์ตราดัชมิลล์ ลดลง 11.11%, ข้าวหอมมะลิ ได้แก่ ตราฉัตรและฉัตรเพชร ลดลง0.40-16.26% ตราแสนดี ลดลง 16% และตรามาบุญครอง ลดลง 20.26%, ปลากระป๋องตราบลูเบิร์ด ลดลง 25%, น้ำปลาทิพรส ลดลง 16.66%, น้ำส้มสายชูตราทิพรส ลดลง 14.70%, ปูนซีเมนต์ผสมและปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ ลดลง 3-5%,สายไฟฟ้า ลดลง 1.6%, เหล็กเส้น ลดลง 20.09% และเหล็กโครงสร้างรูปพรรณ ลดลง 21.88%
ขณะเดียวกันผู้ประกอบการอยู่ระหว่างการพิจารณาที่ลดราคาสินค้าเพิ่มเติมอีกหลายรายการ ได้แก่ น้ำปลา (สินค้าเดิมเพิ่มเติมรายใหม่)และสินค้าของใช้ในชีวิตประจำวัน อาทิ สบู่ผงซักฟอก และยาสีฟัน เป็นต้น ซึ่งผู้ประกอบการจะทยอยปรับลดราคาสินค้าลง และจะแจ้งให้กรม ทราบต่อไป
“ผู้ประกอบการตระหนักถึงราคาน้ำมันที่ลดลงและพร้อมที่จะปรับราคาให้สอดคล้องกับต้นทุน เพื่อช่วยค่าครองชีพประชาชนให้ได้รับความเป็นธรรม และหากประชาชนพบว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมสามารถแจ้งมายังสายด่วน กรมการค้าภายใน 1569 ได้ตลอดเวลาทำการ”
ขณะเดียวกันจะมีการทบทวนเรื่องราคายางรถยนต์อีกครั้ง หลังจากครั้งล่าสุดได้หารือกันไปเมื่อช่วงปลายปี 2558 ที่ผ่านมา ซึ่งกรม อยู่ระหว่างเจรจากับผู้ผลิตยางรถยนต์ให้มีการปรับลดราคาลงตามต้นทุนที่ลดลง ซึ่งคาดว่าในเร็วๆ นี้จะได้ข้อสรุปอีกรอบหลังจากก่อนหน้านี้ผู้ผลิตยางรถยนต์ได้มีการปรับลดราคาสินค้าไปแล้วประมาณ 15% อย่างไรก็ตามตอนนี้ผู้ผลิตอยู่ระหว่างการทบทวนต้นทุนใหม่ เพราะต้องยอมรับว่าสต๊อกเก่าที่มีอยู่มาจากยางพาราต้นทุนสูงเช่นกัน และที่สำคัญแนวโน้มราคายางพาราก็ปรับขึ้นจากนโยบายของรัฐบาล ทั้งนี้ที่ผ่านมา ทางร้านค้าที่จำหน่ายยางรถยนต์ก็ได้มีการจัดทำโปรโมชั่นต่างๆ ให้สอดคล้องกับต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลง เช่น ซื้อ 3 เส้นแถมยางอีก 1 เส้น เป็นต้น ส่วนผลิตภัณฑ์จากยางพาราอื่นๆ กรมได้ประสานห้างค้าปลีกสมัยใหม่ เพื่อสนับสนุนและเพิ่มช่องทางการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยางพาราแปรรูป เช่น ที่นอน, หมอนยางพารา, ถุงมือยาง, ยางปูพื้นรถยนต์ และวัสดุต่างๆ ที่ทำจากยางพารา ไปจำหน่ายบนพื้นที่ของห้างค้าปลีกสมัยใหม่ต่างๆ พร้อมทั้งนำไปจำหน่ายในกลุ่มวิสาหกิจชุมชน และตลาดชุมชนเพื่อธุรกิจท้องถิ่น ภายใต้ชื่อ “ตลาดต้องชม”เพื่อช่วยระบายสินค้า และดันราคายางพาราให้สูงขึ้น
นอกจากนี้ในปี 2558 ที่ผ่านมา มีสินค้าที่อุปโภคบริโภค ลดราคาลงแล้ว 21 สินค้า 274 รายการโดยเฉลี่ยราคาที่ลด 2.08-39% เช่น ข้าวสารบรรจุถุงน้ำมันพืช ปลากระป๋อง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป น้ำปลา ซอสปรุงรส ผงชูรส เหล็กเส้น สายไฟฟ้า กระเบื้องมุงหลังคา น้ำมันหล่อลื่น ยางรถยนต์ รวมถึงสินค้าปัจจัยทางเกษตร ทั้งปุ๋ยเคมีที่ใช้ในนาข้าวและพืชไร่ได้ปรับลดราคาลงกระสอบละ 35-70 บาท ยาป้องกันกำจัดศัตรูพืชลดลง 8-10%
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี