อึ้ง!ขรก.เบี้ยวหนีพุ่ง
แฉ6หมื่นคนผิดนัดกยศ.
คลังเต้นเตรียมล้อมคอก
นำร่องดึงปรับโครงสร้าง
เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังจะดำเนินการตามนโยบายของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ที่ต้องการให้หน่วยงานราชการปลอดการทุจรติคอรัปชั่น โดยจะนำร่องนโยบาย ในฐานะที่เป็นประธานคณะกรรมการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ลงนามร่วมกับทุกกระทรวง ในวันที่ 15 ก.พ.นี้ เพื่อให้ข้าราชการที่ผิดสัญญาชำระเงินกู้กับกยศ.ทั้งประเทศกว่า60,000 รายมาเข้ารับการปรับโครงสร้างหนี้ โดยเป้าหมายจะให้ ข้าราชการกระทรวงการคลังที่ผิดชำระหนี้กับกยศ.กว่า 1,000 ราย ปรับโครงสร้างหนี้ให้แล้วเสร็จทั้งหมดในปีนี้
ทั้งนี้ การดำเนินการกับข้าราชการที่ผิดชำระเงินกู้ กยศ. จะเป็นการดำเนินการตามความสมัครใจ โดยข้าราชการเข้าร่วมโครงการ จะถูกหักเงินจากบัญชีเงินเดือนเพื่อชำระหนี้ทันที และปรับโครงสร้างการชำระหนี้ตามความเหมาะสมไม่เดือดร้อนในกรณีที่จ่ายเงินคืนทั้งก้อนให้กองทุน ก็จะได้รับสิทธิประโยชน์ ซึ่งจะต้องไปพิจารณาเพิ่มเติม เช่น ผู้ที่จ่ายคืนทั้งก้อนอาจจะมีเงินคืนบางส่วนให้ เป็นต้น
“การปราบปรามคอรัปชั่นจะเริ่มจากเงินกู้ กยศ. ในส่วนของข้าราชการทั้งระบบพบผู้ผิดนัดชำระกว่า 60,000 ราย ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนมาก และต้องการเจรจาเคลียร์หนี้ทั้งหมดอย่างประนีประนอม แต่ในรายที่ไม่เข้าโครงการ และยังไม่ยอมชำระหนี้คืน ซึ่งมีข้อมูลทั้งหมดแล้วก็จะถือว่ามีความผิด มีโทษตามระเบียบราชการ และจะเอาผิดต่อไป”นายสมชัย กล่าว
สำหรับ การติดตามการชำระคืนเงินกู้ กยศ.ในปี 2559 ตั้งเป้าทำให้ได้ขั้นต่ำ 1.9 หมื่นล้านบาท หลังจากที่การชำระหนี้คืนดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2556 มีการชำระคืน 1.1 หมื่นล้านบาท ปี 2557 ชำระคืน1.3 หมื่นล้านบาท และปี 2558 ชำระคืน 1.7 หมื่นล้าน จากการออกมาตรการส่งเสริมการชำระคืน ปัจจุบันกองทุนปล่อยกู้ไปแล้ว 4.5 ล้านราย เป็นเงินปล่อยกู้ 4 แสนล้านบาท มีค้างชำระ 2 ล้านราย เป็นเงิน 5.6 หมื่นล้านบาท เป็นการค้างชำระในกลุ่มทั่วไป 1.2 ล้านราย วงเงิน1.3 หมื่นล้านบาท เป็นการค้างชำระที่อยู่ระหว่างไกล่เกลี่ย 1 แสนราย วงเงิน 7 ,000 ล้านบาท และเป็นการค้างที่อยู่ระหว่างการฟ้องร้อง 7 แสนราย วงเงิน 3.5 หมื่นล้านบาท
ส่วนความคืบหน้ากรณีการฟ้องร้องทันตแพทย์หญิง ดลฤดี จำลองราษฎร์ อดีตอาจารย์ภาควิชาทันตกรรมสำหรับเด็ก คณะทันตแพทย์ศาสตร์ ม.มหิดล ที่ขอทุนไปเรียนต่อปริญญาโท และเอก ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่หลังเรียนจบแล้วไม่ยอมกลับมาใช้ทุนรัฐบาล ทำให้ผู้ที่เซ็นค้ำประกันให้กับนางดลฤดีทั้ง 4 รายต้องร่วมกันใช้หนี้แทนจำนวน 7.6 ล้านบาทจนเกิดเป็นกระแสสังคมวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางนั้น
ขณะที่นายสืบพงษ์ ศรีพงษ์กุล โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวถึงความคืบหน้าในการฟ้องล้มละลายนางดลฤดีว่า ศาลได้นัดไต่สวนครั้งแรกวันที่ 14 มีนาคม 2559 นี้ เวลา 09.00 น. ซึ่งฝ่ายโจทก์และจำเลยต้องมาศาลตามนัด หากจำเลยไม่มา ศาลจะมีคำสั่งว่า จำเลยขาดนัดพิจารณาและจะดำเนินคดีไปฝ่ายเดียว และถือเป็นการขัดขืนหมายเรียกซึ่งศาลจะมีคำสั่งให้ออกหมายจับต่อไป
ทางด้านรศ.นพ.สรนิต ศิลธรรม รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) กล่าวว่าต้องขอบคุณโซเชียลมีเดียที่ช่วยกันกดดันนางดลฤดี โดยเฉพาะทางม.ฮาร์วาร์ด ที่อ้างว่าเป็นเรื่องส่วนบุคคลจนกระทั่งดำเนินการสอบสวนในเรื่องนี้แล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี