ผอ.สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ หรือสบน.คาดการขาดทุนจากโครงการจำนำข้าวมหาศาลทำให้เงินที่ได้จากการขายข้าวไม่เพียงพอมาชำระหนี้กว่า 4 แสนล้านบาท
นายสุวิชญ โรจนวานิช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) กระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การบริหารหนี้โครงการรับจำนำข้าว จะทำได้ตามกรอบไม่เกิน 5 แสนล้านบาท ภายในสิ้นปีนี้ ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) กำหนดไว้ เนื่องจากปัจจุบันถือว่าเกินกรอบอยู่ประมาณ 800 ล้านบาท เท่านั้น และทางกระทรวงพาณิชย์ ได้มีการระบายข้าวอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีเงินมาลดหนี้ดังกล่าว
สำหรับสิ้นปี 2558 ที่ผ่านมา หนี้จำนำข้าวเกินกรอบ 5 แสนล้านบาท อยู่กว่า 1 หมื่นกว่าล้านบาท จึงต้องมีการขยายเวลาการลดหนี้ให้อยู่ในกรอบได้ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งเป็นการกู้เงินของ ธ.ก.ส.จำนวน 4.1 แสนล้านบาท และใช้สภาพคล่อง 9 หมื่นล้านบาท โดยเงินที่ระบายข้าวได้จะไปลดหนี้ในส่วนของสภาพคล่องของ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ให้หมดเสียก่อน ถึงจะนำมาชำระหนี้เงินกู้
ผู้อำนวยการสบน. ยังคาดว่า จะมีการขาดทุนจากโครงการจำนำข้าวจำนวนมาก ทำให้เงินที่ระบายข้าวไม่เพียงพอมาชำระหนี้ คาดว่าจะขายข้าวมาชำระไม่ได้กว่า 4 แสนล้านบาท ซึ่งทางกระทรวงการคลัง จะหารือกับ สำนักงบประมาณ ให้ตั้งงบใช้ชำระหนี้ในระยะปานกลาง เพื่อให้เกิดความชัดเจน เช่น หากมีหนี้ค้าง 4 แสนล้านบาท ก็ให้ตั้งงบประมาณมาใช้เป็นเวลา 10 ปี หรือ ปีละ 4 หมื่นล้านบาท
ส่วนการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวล่าสุด 30 ก.ย. 2558 มีผลขาดทุนเพิ่มขึ้นจากการปิดบัญชีรอบ 30 ก.ย. 2557 ไม่มาก โดยการปิดบัญชีรอบปี 2557 มีผลขาดทุนประมาณ 7 แสนล้านบาท เป็นโครงการรับจำนำข้าวสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จำนวน 5 แสนล้านบาท
มีรายงานจาก กระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่าในส่วนของการระบายข้าวในโกดังรัฐบาลนั้น ล่าสุดอยู่ในขั้นตอนการระบายข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลเป็นการทั่วไป ครั้งที่ 3/59 ปริมาณ 1.2 ล้านตัน โดยขณะนี้ตลาดมีความต้องการข้าวเพิ่มขึ้น หลังจากที่ผลผลิตข้าวเปลือกในประเทศออกสู่ตลาดหมดแล้ว และแนวโน้มผลผลิตน่าจะลดลง จากปัญหาภัยแล้งขณะที่การติดตามทวงค่าเสียหายจากการขายข้าวในรูปรัฐต่อรัฐ(จีทูจี) จำนวน 4 สัญญา ปริมาณข้าว 6.2 ล้านตัน มูลค่าความเสียหายประมาณ 2 หมื่นล้านบาทนั้น อยู่ระหว่างรอคำตอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เรื่องอำนาจหน้าที่ของหน่วยงานที่เป็นผู้ดำเนินการส่งหนังสือเรียกค่าเสียหายกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง
ปัจจุบันราคาข้าวในภาพรวมปรับตัวสูงสุดในรอบ 2 ปีโดยราคาส่งออกข้าวหอมมะลิอยู่ที่ตันละ 795 เหรียญสหรัฐ ข้าวเหนียวตันละ 900 เหรียญสหรัฐ และข้าวขาวตันละ 439 เหรียญสหรัฐ ขณะที่ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย รายงานว่าช่วงวันที่ 1 ม.ค.-3 พ.ค.2559 ไทยส่งออกข้าว 3.75 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 30.75% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน พร้อมคาดว่าปีนี้ไทยจะส่งออกได้ตามเป้าหมาย 9.5 ล้านตัน และกลับมาเป็นผู้ส่งออกข้าวที่มีปริมาณส่งออกมากเป็นอันดับ 1 ของโลก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี