บริษัท นิสสัน มอเตอร์ จำกัด (นิสสัน) และบริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น (มิตซูบิชิ) ได้ประกาศว่าทั้งสองบริษัทได้ลงนามในข้อตกลงพื้นฐานวันนี้ เพื่อสร้างความเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ ที่แผ่กว้างออกไประหว่างผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นทั้งสองราย โดยนิสสันจะเข้าซื้อหุ้นในสัดส่วน 34% ของมิตซูบิชิ รวมมูลค่า 237 พันล้านเยน
โดยการเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์นี้นับเป็นการขยายความสัมพันธ์อันดีที่ต่อกันมายาวนาน ระหว่างบริษัทนิสสันมอเตอร์ และมิตซูบิชิมอเตอร์ส ซึ่งทั้งสองบริษัทได้ร่วมมือกันทางธุรกิจด้านการพัฒนาและผลิตมาเป็นเวลา 5 ปีแล้ว โดยนิสสัน และมิตซูบิชิ ได้ตกลงที่จะร่วมมือกันดำเนินการในส่วนงานต่างๆ ทั้งในด้านการจัดซื้อด้านโครงสร้างพื้นฐานของรถยนต์ การแบ่งปันด้านเทคโนโลยี และการใช้ประโยชน์จากโรงงาน และประโยชน์ทางด้านการตลาดที่เติบโต
ด้าน นายคาร์ลอส กอส์น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นิสสัน มอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ ระหว่างนิสสัน มอเตอร์ และมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ในครั้งนี้ นับเป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ที่จะเอื้อประโยชน์ให้แก่ทั้งสองฝ่าย หรือที่เรียกว่า วิน - วิน (Win - Win) จากการร่วมมือกันอย่างเต็มที่นี้ ในการสร้างให้เกิดการรวมพลังใหม่เพื่อขับเคลื่อนในอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยแม้ว่าจากนี้ นิสสันจะเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของมิตซูบิชิมอเตอร์ส แต่เราก็จะให้ความเคารพต่อแบรนด์ ซึ่งมีประวัติอันยาวนานของบริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส อีกทั้งยังจะส่งเสริมโอกาสในการเติบโต และพร้อมให้การสนับสนุนเมื่อบริษัทฯ ต้องเผชิญกับความท้าทาย ซึ่งเราขอต้อนรับบริษัทมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ด้วยความยินดียิ่ง สู่การเป็นสมาชิกใหม่ล่าสุดของครอบครัวพันธมิตร ที่วันนี้เราได้ขยายใหญ่ออกไปอีก
ด้าน นายโอซามุ มาสุโกะ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า จากการความสำเร็จในการทำธุรกิจ และความร่วมมือเป็นพันธมิตรกับนิสสันที่ผ่านมา บริษัท นิสสัน เป็นบริษัทที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญในการสร้างประโยชน์สูงสุดให้กับพันธมิตรทางธุรกิจ เราจึงมั่นใจว่าภายใต้ข้อตกลงนี้ จะสร้างคุณค่าระยะยาวที่จำเป็นสำหรับการเติบโตก้าวไปข้างหน้าของทั้งสองบริษัท ซึ่งนับจากนี้ไปเราจะได้ร่วมดำเนินการเสริมสร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์อย่างลึกซึ้งรวมทั้งการแบ่งปันทรัพยากรต่างๆ เช่น ในด้านการพัฒนาและด้านการจัดซื้อไปด้วยกัน
ภายใต้การบรรลุข้อตกลงความร่วมมือครั้งนี้ นิสสันจะซื้อหุ้นของบริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ สคอร์ปอเรชั่น ที่ออกใหม่จำนวน 506.6 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 468.52 เยน ซึ่งราคาต่อหุ้นนี้สะท้อนถึงราคาค่าเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักตามปริมาณ ในช่วงเวลาระหว่างวันที่ 21 เมษายน พ.ศ.2559 ถึงวันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ.2559 โดยจากการซื้อหุ้นครั้งนี้ นิสสันจะกลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ในวันปิดการซื้อขาย
ภายใต้เงื่อนไขของความร่วมมือระหว่างมิตซูบิชิ มอเตอร์ส และนิสสัน ครั้งนี้ ยังคงคาดว่า มิตซูบิชิเฮฟวี อินดัสตรี , มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น และธนาคารแห่งโตเกียว - มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ จำกัด จะยังคงถือหุ้นและรักษาความเป็นเจ้าของบริษัทร่วมกันอย่างมีนัยสำคัญในบริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ต่อไป และให้ความสนับสนุนความเป็นพันธมิตรในเชิงกลยุทธ์ครั้งนี้
ทั้งนี้ การลงนามในข้อตกลงความร่วมมือของพันธมิตรอย่างเป็นทางการโดยสมบูรณ์ คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม พ.ศ.2559 และการลงนามในข้อตกลงของผู้ถือหุ้นร่วมกับผู้ถือหุ้นของมิตซูบิชิ กรุ๊ปส์ ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ในปัจจุบัน และการได้รับอนุญาตตามกฎระเบียบคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในปลายปีนี้
การตัดสินใจในเชิงกลยุทธ์ของนิสสัน และเข้าถือหุ้นของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ครั้งนี้ นับเป็นการความร่วมมือของพันธมิตรทางธุรกิจครั้งใหญ่และครั้งสำคัญอีกครั้ง นับตั้งแต่การจับมือเป็นพันธมิตรกลยุทธ์ทางธุรกิจของนิสสัน และเรโนลต์ ที่ได้จับมือร่วมกันเป็นระยะเวลากว่า 17 ปี ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา นิสสันยังได้เป็นพันธมิตรร่วมกับกลุ่มบริษัทยานยนต์อื่นๆ ได้แก่ เดมเลอร์เยอรมันนี และอัฟโตวาซ ประเทศรัสเซีย
และภายใต้ความร่วมมือครั้งนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส จะได้เสนอชื่อผู้บริหารที่เป็นผู้แทนของนิสสัน เข้าเป็นคณะกรรมการอำนวยการตามสัดส่วนของสิทธิในการออกเสียงของนิสสัน รวมทั้งเสนอให้ผู้แทนบริหารของนิสสันเข้าเป็นประธานบอร์ดบริหารด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี