นายไกรภพ แพ่งสภา ตัวแทนคอตตอน ยูเอสเอ ภูมิภาคอาเซียน เปิดเผยว่า ในปี 2558 ปริมาณการนำเข้าฝ้ายสหรัฐจากอุตสาหกรรมสิ่งทอไทยยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องจากปี 2557 ที่มีจำนวนนำเข้าฝ้ายสหรัฐ 99,694 ตัน เป็น 103,217 ตัน หรือคิดเป็นเติบโต 3.4% จากกระแสรักษ์โลกที่ผู้บริโภคทั่วโลกต่างหันมาสนใจเรื่องสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น โดยฝ้ายจากสหรัฐยังคงครองตำแหน่งผู้ส่งออกฝ้ายรายใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยส่วนแบ่งการตลาดการส่งออกฝ้ายสูงสุดราว 27%
สำหรับในไทยนั้น ฝ้ายจากสหรัฐได้รับการยอมรับจากผู้ประกอบการในไทย ด้วยอัตราการนำเข้าฝ้ายจากสหรัฐเพื่อผลิตเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม และสิ่งทอเพื่อใช้ในครัวเรือนคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 29.7% ของปริมาณฝ้าย 336,000 ตัน ที่ไทยนำเข้าทั้งหมดในปี 2557 และนับเป็นประเทศที่นำเข้าฝ้ายจากสหรัฐสูงเป็นอันดับ 3 ในภูมิภาคอาเซียน
ทั้งนี้ในปี 2559 นี้คอตตอน ยูเอสเอจึงเตรียมทุ่มงบการตลาดรวมทั้งปีกว่า 23 ล้านบาท เพื่อสานต่อกลยุทธ์การตลาดในการขยายการรับรู้แบรนด์ “คอตตอน ยูเอสเอ”ในกลุ่มผู้บริโภคในวงกว้าง โดยมุ่งเน้นไปที่การสื่อสารประชาสัมพันธ์คุณลักษณะเด่น 3 ประการของฝ้ายสหรัฐคือ ความบริสุทธิ์ของเส้นใย คุณภาพที่ดีของเส้นใย และความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ควบคู่กับการเสริมสร้างความใกล้ชิดระหว่างแบรนด์กับกลุ่มไลเซ่นซี และในปี 2559 นี้คอตตอน ยูเอสเอ ได้วางแผนที่จะเพิ่มไลเซ่นซีในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่สิ่งทอ ได้แก่ แบรนด์ผ้าอนามัยที่ผลิตจากฝ้ายสหรัฐ 100% ซึ่งจะเปิดตัวภายในเดือนพฤษภาคม 2559 นี้ และตั้งเป้าที่จะเพิ่มไลเซ่นซีอีกประมาณ2-4 ราย แบ่งเป็น แบรนด์เครื่องนุ่งห่ม 1-2 แบรนด์ และโรงงานสิ่งทอ 1-2 แห่ง ในส่วนของการบริโภคฝ้ายในไทยนั้นคอตตอน ยูเอสเอ ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนสินค้าที่ใช้ฝ้ายจากสหรัฐเพิ่มขึ้นเป็น 3.5 ล้านชิ้น ภายในสิ้นปี 2559
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี