รายงานข่าวจากการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กระทรวงคมนาคม แจ้งว่า การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กระทรวงคมนาคมแนะนำวิธีขับรถอย่างปลอดภัยบนทางพิเศษในช่วงที่มีฝนตกซึ่งมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนมากกว่าปกติเนื่องจากผิวจราจรเปียกลื่นและทัศนวิสัยในการมองเห็นไม่ดีดังนั้นเพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น กทพ. ขอแนะวิธีขับรถอย่างปลอดภัย ดังนี้
การเตรียมสภาพรถให้พร้อมก่อนออกเดินทางผู้ขับขี่ควรตรวจสอบระบบสัญญาณไฟให้อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ดี และตรวจสอบอุปกรณ์ใบปัดน้ำฝนให้สามารถปัดกวาดน้ำฝนได้สะอาดรวมถึงหมั่นเติมน้ำในกระปุกฉีดน้ำอยู่เสมอ
เลือกใช้ยางรถยนต์ที่มีดอกยางละเอียด เติมลมยางให้มีแรงดันลมมากกว่าปกติ 2-3 ปอนด์/ตารางนิ้วเพื่อให้หน้ายางแข็ง ซึ่งจะช่วยให้ยางมีกำลังในการรีดน้ำดียิ่งขึ้นตลอดจนตรวจสอบผ้าเบรกให้สามารถใช้งานได้ดีในสภาพถนนเปียกลื่น หากเบรกแล้วรถมีอาการปัด ให้จัดการเปลี่ยนผ้าเบรกใหม่
เปิดไฟหน้า-หลังรถ เนื่องจากสภาพอากาศในช่วงที่ฝนตกหนักมักมืดครึ้มคล้ายช่วงหัวค่ำทำให้ผู้ขับขี่มองเห็นเส้นทางไม่ชัดเจนการเปิดไฟหน้า-หลังรถนอกจากจะช่วยให้ผู้ขับขี่มองเห็นเส้นทางดีขึ้นแล้วยังช่วยให้ผู้ขับขี่รถคันอื่นเห็นรถของเราได้ชัดเจนมากขึ้นด้วย
ลดความเร็วจากการศึกษาพบว่าช่วงที่ฝนเริ่มตกใน 10 นาทีแรก เป็นช่วงที่รถมีโอกาสลื่นไถลมากที่สุดเพราะน้ำฝนจะชะล้างคราบดิน และฝุ่นละอองที่ติดอยู่บนพื้นถนนซึ่งมีลักษณะคล้ายการละเลงโคลน ดังนั้นการลดความเร็วของรถ จึงเป็นการเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ ซึ่งระดับความเร็วที่ทำให้รถไม่เกิดการลื่นไถลคือ 60 กม./ชม.
หลีกเลี่ยงการเหยียบเบรกแรงๆ หรือการเบรกกะทันหัน การค่อยๆ ทิ้งน้ำหนักเหยียบเบรกเพื่อชะลอความเร็วลงนับว่าเป็นวิธีการขับขี่ที่เหมาะสมที่สุด เพราะหากเหยียบเบรกอย่างรุนแรง รถอาจเสียการทรงตัว
หลีกเลี่ยงการขับรถลุยแอ่งน้ำ การขับรถผ่านแอ่งน้ำขังด้วยความเร็วสูงอาจทำให้รถเกิดอาการเสียหลักได้หากพบเห็นแอ่งน้ำอยู่ข้างหน้าควรชะลอความเร็วลงเสียก่อน และขณะขับผ่านแอ่งน้ำห้ามเหยียบคันเร่งหรือเบรกเป็นอันขาด เพราะอาจทำให้รถเสียการควบคุม เมื่อพ้นแอ่งน้ำจึงเหยียบคันเร่งต่อไปได้ ทางที่ดีหากพอหักหลบได้ก็ควรหลบอย่างปลอดภัยดีที่สุด
ไม่ขับรถชิดคันหน้ามากเกินไป เพราะสภาพถนนที่เปียกลื่น ทำให้ต้องใช้ระยะทางในการเบรกเพิ่มขึ้นผู้ขับขี่ควรเว้นระยะห่างจากรถคันหน้ามากกว่าการขับขี่ในช่วงปกติ 10-15 เมตร เพื่อให้สามารถหยุดรถได้ทัน
หากขณะขับรถแล้วรถลื่นไถลหรือเหินน้ำ ห้ามเหยียบเบรกจนล้อหยุดหมุนในทันที เพราะจะทำให้รถพลิกคว่ำได้ ให้แก้ไขด้วยการถอนคันเร่ง ควบคุมพวงมาลัยให้มั่นคงแล้วพยายามลดความเร็วโดยใช้เกียร์ต่ำจนกว่ารถจะทรงตัวได้แล้วจึงค่อยเหยียบเบรกเพื่อหยุดรถ
กรณีที่ท่านไม่ได้รับความสะดวกหรือมีเหตุขัดข้องต้องการความช่วยเหลือบนทางพิเศษสามารถติดต่อศูนย์บริการข้อมูลผู้ใช้ทางพิเศษ (EXAT Call Center) โทร.1543 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือใช้โทรศัพท์ฉุกเฉินที่ติดตั้งอยู่บนทางพิเศษทุกระยะ 500-1,000 เมตร แจ้งเหตุได้เช่นกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี