ไอซีทีผนึกค่ายมือถือ-สถาบันศึกษา
สร้างนักธุรกิจ‘สตาร์ทอัพ’
พร้อมดึงแบงก์หนุนเงินกู้
นายอุตตม สาวนายน รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ ไอซีที กล่าวว่า กระทรวงได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (เอ็มโอยู) เครือข่ายศูนย์บ่มเพาะดิจิทัลสตาร์ทอัพ (Digital Startup Incubation Network) ระหว่างหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน ภายใต้แนวคิด Incubation Center ส่งเสริมสนับสนุนองค์ความรู้ และนวัตกรรมใหม่ เพื่อต่อยอดทางธุรกิจแก่ผู้ประกอบการธุรกิจเทคโนโลยีรุ่นใหม่ โดยมีสถาบันการศึกษา สถาบันการเงิน และผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ (โอเปอเรเตอร์) เข้าร่วมโครงการ ประกอบด้วย 5 สถาบันการศึกษา ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง มหาวิทยาลัยศรีปทุม มหาวิทยาลัย กรุงเทพ และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
ส่วนสถาบันการเงิน 4 แห่ง ได้แก่ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) โอเปอเรเตอร์ 3 ราย ได้แก่ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค รวมถึง บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เฟอร์เฟค จำกัด (มหาชน)
“ปัจจุบันแต่ละหน่วยงานต่างก็มีศูนย์บ่มเพาะผู้ประกอบการอยู่แล้ว ทว่าแต่ละแห่งต่างก็มีความเชี่ยวชาญในการบ่มเพาะผู้ประกอบการที่แตกต่างกัน เช่น จุฬาฯ เน้นบ่มเพาะเรื่องอุตสาหกรรมท่องเที่ยว สุขภาพ และสปา ขณะที่ บางมด และ ลาดกระบัง ถนัดการบ่มเพาะเรื่องเทคโนโลยีและหุ่นยนต์ ส่วนม.ศรีปทุม ถนัดเรื่องการสร้างคอนเทนต์และแอนิเมชั่น ขณะเดียวกับที่ ม.กรุงเทพถนัดเรื่องแอนิเมชั่น และการสร้างทักษะในการเป็นผู้ประกอบการ”
ดังนั้นกระทรวงไอซีทีจะทำหน้าที่เป็นหน่วยกลางในการประสานให้ธุรกิจเริ่มต้น หรือสตาร์ทอัพรุ่นใหม่ ที่ต้องการบ่มเพาะความรู้ ในด้านต่างๆ ที่ตรงกับความต้องการตามความถนัดของแต่ละหน่วยงาน โดยกระทรวงจะให้ สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ ซิป้า และ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) เป็นเจ้าภาพ ซึ่งจะใช้สำนักงานของ กสท โทรคมนาคม บางรัก เป็นศูนย์ของโครงการนี้ คาดว่าจะสามารถเปิดรับสตาร์ทอัพที่สนใจได้ภายในสิ้นปีนี้ ส่วนคุณสมบัติ เงื่อนไข ตลอดจนรายละเอียดการรับสมัครสตาร์ทอัพ ว่าต้องมีเกณฑ์อย่างไรนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการร่าง
หลักเกณฑ์ที่เหมาะสมที่สุดอยู่
ขณะเดียวกัน ข้อดีของโครงการนี้คือ สตาร์ทอัพไม่ต้องเริ่มจากศูนย์ ซึ่งอาจจะไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร ให้สามารถเข้ามาร่วมโครงการนี้ได้ นอกจากนี้ยังสอดคล้องกับโนบายของรัฐบาลในการจะให้ทุนสนับสนุนสตาร์ทอัพภายใต้กรอบงบประมาณ 10,000 ล้านบาท สำหรับสตาร์ทอัพที่มีไอเดียดี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี