“วิรไท” ยอมรับสถานการณ์ในกลุ่มสหภาพยุโรป น่าห่วง แนะเอกชนปิดความเสี่ยง ด้านพาณิชย์ยืนยันการค้าไทย-ยุโรปไม่ชะงักงัน “คลัง” มั่นใจ ไม่กระทบเศรษฐกิจไทย
นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือธปท. กล่าวในงาน CLMVT Forum 2016 : Towards a Shared Prosperity ที่โรงแรมดุสิตธานีเมื่อวันที่ 17 มิ.ย. 2559 ว่า การลงประชามติของประเทศอังกฤษในวันที่ 23 มิ.ย. 2559หากอังกฤษประกาศถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป(อียู) จะส่งผลกระทบต่อประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) แน่นอน แต่ผลที่จะกระทบต่อไทยคงมีไม่มาก
ทั้งนี้การตัดสินใจจะอยู่ หรือแยก ออกจากอียู หรือไม่นั้น ส่งผลให้ตลาดเงินทั่วโลกเกิดความผันผวน โดยในช่วงที่ผ่านมา เริ่มเห็นการโยกย้ายเงินทุนไปยังประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ เพื่อปิดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น ในขณะที่ธปท.ยอมรับว่าเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ตลาดเงินตลาดทุนมีความผันผวน ซึ่งธปท.อยู่ระหว่างติดตามและเฝ้าระวัง เพื่อไม่ให้ความผันผวนดังกล่าวกระทบกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย
“ในแวดวงการเงินตอนนี้ให้ความสนใจและระวังกับเหตุการณ์ในวันที่ 23 มิ.ย.นี้ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร อังกฤษจะอยู่ต่อหรือแยกตัวออกไป ก็จะเกิดความผันผวนในเรื่องของอัตราแลกเปลี่ยน และราคาสินทรัพย์ ดังนั้นในตอนนี้จึงเริ่มเห็นการโยกย้ายเงินทุน
ตามความคิดของนักลงทุนแต่ละรายในการคาดเดาเหตุการณ์ ในขณะที่นักลงทุนไทยนั้นก็จะต้องปิดความเสี่ยง ด้วยการบริหารจัดการด้านความเสี่ยงด้วย”นายวิรไท กล่าว
พร้อมยอมรับว่า ในสัปดาห์หน้าอาจจะมีความผันผวนสูงในตลาดเงินและตลาดทุนทั่วโลก และหากอังกฤษตัดสินใจออกจากกลุ่มยูโรโซนจะเกิดความเสี่ยงหรือความผันผวนต่อ เนื่องในระยะกลาง และระยะยาวในระหว่างรอการเจรจาข้อตกลงใหม่ของทางอังกฤษ และยูโรโซนในเรื่องต่างๆ ซึ่งอาจเห็นการกระทบต่อเนื่อง ทางด้านเศรษฐกิจต่างๆ ด้วย ดังนั้นจึงเป็นเหตุการณ์ที่ทั่วโลกต่างจับตามอง ในขณะที่ธปท.ยืนยันว่ามีเครื่องมือพร้อมที่จะเข้าไปดูแลเพื่อไม่ให้เกิดความ ผันผวนจนกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยอย่างแน่นอน
นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ผลการลงประชามติของประเทศอังกฤษ หากอังกฤษประกาศถอนตัวจะส่งผลกระทบต่อประเทศในกลุ่มอียู แน่นอน แต่ผลที่จะกระทบต่อไทยคงมีไม่มาก เพราะการลงทุนระหว่างไทยกับอังกฤษมีไม่สูงรวมถึงปริมาณการส่งออกต่ำ ซึ่งหากอังกฤษตัดสินใจออกจากอียู กว่าจะมีผล อย่างต่ำก็ต้องใช้เวลา 1 ปีซึ่งหลายประเทศรวมถึงกลุ่มยุโรปยังมีเวลาเตรียมตัว
“ผลในทางจิตวิทยาคงมีบ้าง แต่การลงทุนการส่งออก ผลโดยตรงกับไทยคงไม่มีปัญหา แต่จะมีในส่วนของความผันผวนการเคลื่อนย้ายเงินทุนอยู่บ้างที่อาจจะไหลมา ประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ ก็ต้องเตรียมมาตรการรับมือความผันผวนไว้ โดยเชื่อว่าธปท. มีเครื่องมือไว้ทั้งหมดแล้ว”
นายสมชัย กล่าวว่า ปัญหาการออกจากอียูของอังกฤษ จะไม่ส่งผลต่อเศรษฐกิจโลกไม่กระทบเป็นวงกว้างร้ายแรงเหมือนช่วงวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์แน่นอน แต่อาจจะมีปัญหามากในกลุ่มยุโรปก็ขึ้นอยู่กับการคาดการณ์และการยอมรับของนักลงทุน
อย่างไรก็ตาม หากปัญหาอังกฤษลุกลามไปถึงเศรษฐกิจสหรัฐ หรือภูมิภาคอื่นๆ ก็เชื่อว่าจะไม่กระทบไทย โดยเฉพาะภาคการส่งออก ซึ่งกระทรวงการคลังก็ไม่ได้คาดว่าการส่งออกจะเป็นปัจจัยสำคัญให้เศรษฐกิจไทย ขยายตัวได้ในช่วง 1-2 ปีนี้อยู่แล้ว
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่าได้ติดตามสถานการณ์การลงประชามติของอังกฤษอย่างใกล้ชิด เพราะอาจจะมีผลกระทบทางจิตวิทยาระยะสั้นได้โดยอาจจะเกิดความตื่นตระหนก แต่สำหรับผลกระทบต่อการค้ากับไทยนั้น เชื่อว่าไม่น่าจะส่งผลกระทบเนื่องจากไทยมีสัดส่วนการส่งออกและการค้ากับอังกฤษไม่สูงมาก เพราะปัจจุบันไทยทำการค้ากับกลุ่มอียู ซึ่งมีสัดส่วนการส่งออกเพียงร้อยละ 10 เท่านั้น ขณะที่อังกฤษใช้สกุลเงินปอนด์อยู่แล้ว แยกตัวจากการใช้เงินยูโรจึงไม่น่าจะมีผลให้การค้าภาพรวมเกิดการชะงักงัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี