เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล(ประเทศไทย) จำกัด มีการเชิญสื่อมวลชนเข้าร่วมกิจกรรมทดสอบขับรถยนต์ “ฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด ใหม่” โดยกำหนดเส้นทางการทดสอบ คือ เส้นทางจังหวัดชลบุรี-จังหวัดจันทบุรี ซึ่งมีสื่อมวลชนเข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ ฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด ใหม่ ถือเป็นอีกขั้นของยนตรกรรมไฮบริดด้วยเทคโนโลยีไฮบริดอันล้ำสมัยล่าสุดจากฮอนด้า Sport Hybrid Intelligent Multi Mode Drive (i-MMD) ที่ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลัง ด้วยกำลังสูงสุดทั้งระบบ 215 แรงม้า เพิ่มความสนุกสนานเร้าใจในการขับขี่ด้วยโหมดการขับขี่แบบสปอร์ต อีกทั้งสามารถขับขี่ในโหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode) ได้ต่อเนื่อง และทำความเร็วได้สูงสุดถึง 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง พร้อมด้วยมิติใหม่ของเทคโนโลยีความปลอดภัย ภายใต้ Honda SENSING ซึ่งรวมฟังก์ชั่นความปลอดภัยขั้นสูงเข้าด้วยกัน เพื่อความมั่นใจในทุกการขับขี่ ลงตัวกับดีไซน์ที่หรูหราสง่างาม และฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบครัน
ทั้งนี้ ฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด ใหม่ มาพร้อมระบบขับเคลื่อน Sport Hybrid Intelligent Multi Mode Drive (i-MMD) ด้วยการทำงานของเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร Atkinson-Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว ผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลัง 2 ตัว พร้อมด้วยเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน 1.3 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ที่ให้ประสิทธิภาพสูงในการชาร์จ และจ่ายกระแสไฟได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้กำลังสูงสุดทั้งระบบได้ถึง 215 แรงม้า สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้อย่างอัจฉริยะเพื่อให้เหมาะกับทุกสภาพการขับขี่
ได้แก่ โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode) ที่สามารถขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้ต่อเนื่อง และทำความเร็วได้สูงสุดถึง 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode) และโหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode)
และเพื่อให้ผู้ขับขี่ได้เข้าถึงอารมณ์การขับขี่ในสไตล์สปอร์ตที่สนุกสนาน เร้าใจฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด ใหม่ ได้เพิ่มโหมดการขับขี่แบบสปอร์ต (Sport Drive Mode) ด้วยการใช้พลังงานจากแบตเตอรี่เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเร่งทำความเร็วให้กับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนโดยผู้ขับขี่สามารถใช้งานได้เพียงกดปุ่ม Sport ที่อยู่บริเวณคันเกียร์ ระบบ Sport Hybrid i-MMD จึงเป็นระบบ Full Hybrid ที่ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลังอีกทั้งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 99 กรัม/กิโลเมตร
ทั้งนี้ในกิจกรรมทดสอบรถดังกล่าว นอกเหนือจากสมรรถนะที่น่าสนใจของ “ฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด ใหม่” แล้วทางบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ยังมีการดึงประเด็นสำคัญเกี่ยวกับเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยมาชูเป็นจุดสนใจในการทดสอบครั้งนี้ด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตามจากการที่ทีมข่าว “แนวหน้ายานยนต์” มีการทดสอบขับรถ“ฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด ใหม่” ครั้งนี้ก็พบว่าเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยของ “ฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด ใหม่” ทำได้ดีทีเดียว
โดย “ฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด ใหม่” ถือได้ว่า มาพร้อมกับมิติใหม่ของเทคโนโลยีความปลอดภัยอันล้ำสมัย Honda SENSING ที่ผสานการทำงานเรดาร์ และกล้องด้านหน้า เพื่อตรวจจับสภาวะแวดล้อมบนท้องถนน แล้วแจ้งเตือนผู้ขับขี่หรือช่วยควบคุมรถในสถานการณ์ที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ และเพื่อความปลอดภัยของตัวผู้ขับ และผู้โดยสารในรถรวมถึงเพื่อนร่วมทางบนท้องถนน
ทั้งนี้จะประกอบด้วย 4 ระบบ ดังนี้
1) ระบบควบคุม และปรับความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน-Adaptive Cruise Control (ACC) เป็นระบบที่ไม่เพียงแต่ช่วยควบคุมความเร็วของรถให้คงที่ตามที่ผู้ขับขี่ได้ตั้งค่าไว้ แต่จะทำการตรวจจับระยะห่าง และความเร็วของรถคันหน้า เพื่อปรับความเร็วของรถโดยอัตโนมัติเพื่อรักษาระยะห่างระหว่างรถคันหน้าได้อย่างเหมาะสมตลอดเวลา
2) ระบบเตือนการชนด้านหน้า และตรวจจับคนเดินถนนด้วยกล้องและเรดาร์พร้อมระบบช่วยเบรก-Collision Mitigation Braking System (CMBS) เมื่อมีรถอยู่ด้านหน้าในระยะที่ไม่ปลอดภัย ระบบจะแจ้งเตือนผ่านหน้าจอแสดงข้อมูลและสัญญาณเสียง รวมถึงมีการสั่นเตือนของพวงมาลัยในกรณีรถสวนทาง หากรถยนต์ยังเข้าใกล้ระยะที่เสี่ยงต่อการชน ระบบจะทำการเสริมแรงเบรกโดยอัตโนมัติ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ นอกจากนี้ ระบบ CMBS ยังได้รับการพัฒนาไปอีกขั้น ให้สามารถตรวจจับคนเดินถนนได้อีกด้วย
3) ระบบแจ้งเตือน และช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ-Lane Keeping Assist System (LKAS) โดยกล้องด้านหน้าจะทำการตรวจจับเส้นแบ่งช่องทางเดินรถ และทำการหน่วงของพวงมาลัยเพื่อช่วยให้ผู้ขับควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถได้ตลอดเวลา
4) ระบบแจ้งเตือน และช่วยเหลือเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ-Road Departure Mitigation (RDM) with Lane Departure Warning (LDW) เมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถโดยไม่ตั้งใจ ระบบจะส่งสัญญาณเตือนไปที่หน้าจอแสดงข้อมูลพร้อมสั่นเตือนที่พวงมาลัย และในกรณีที่รถออกนอกช่องทางมากขึ้น ระบบจะทำการหน่วงพวงมาลัย เพื่อช่วยดึงให้รถกลับเข้าสู่ช่องทาง หากรถยังคงเบี่ยงออกนอกช่องทางมากยิ่งขึ้น ระบบเบรกจะทำงานเพื่อชะลอความเร็วอย่างเหมาะสม (ในกรณีเส้นแบ่งถนนเป็นเส้นทึบ) เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ
และยังมาพร้อมมาตรฐานความปลอดภัยที่ครบครันรอบด้าน อาทิ ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) ช่วยลดจุดบอดในการมองเห็นของกระจกมองข้างด้านซ้าย ด้วยการจับภาพและแสดงผลผ่านหน้าจอขนาด 7.7 นิ้ว กล้องส่องภาพด้านหลัง ปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-angle Rearview Camera) ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในการถอย สามารถเลือกดูมุมกล้องที่แตกต่างกันได้ทั้งแบบ 130 องศา 180 องศา และมุมมองจากด้านบน ระบบไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติขณะเลี้ยว (Active Cornering Light-ACL) ช่วยเพิ่มความสว่างด้านข้างของตัวรถ ขณะทำการเลี้ยวรถในเวลากลางคืน เสียงเตือนภายนอกรถขณะขับขี่โหมดมอเตอร์ไฟฟ้า (Acoustic Vehicle Alerting System-AVAS)
และระบบถุงลม 6 ตำแหน่ง ประกอบด้วยถุงลมคู่หน้าอัจฉริยะ (Dual i-SRS) ถุงลมด้านข้างคู่หน้าอัจฉริยะ (i-Side Airbag) และม่านถุงลมด้านข้าง (Side Curtain Airbags) เพื่อความปลอดภัยและช่วยลดอาการบาดเจ็บของทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร เพื่อความมั่นใจในทุกการเดินทาง
คราวนี้มาต่อกันด้วยประเด็นการออกแบบภายนอกกัน โดยการออกแบบภายนอกนี้เรียกได้ว่า ยังคงความหรูหราสง่างาม และเพิ่มความสปอร์ตมากยิ่งขึ้น ด้วยไฟหน้าพร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน (Daytime Running Lights) และไฟท้ายดีไซน์ใหม่แบบ LED ที่ตกแต่งด้วยกรอบสีฟ้า กระจังหน้าดีไซน์พิเศษตกแต่งด้วยเส้นสายสีฟ้า โฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้นด้วยสปอยเลอร์หลังและล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่สไตล์สปอร์ต
ส่วนภายในห้องโดยสารกว้างขวาง มอบความสะดวกสบายด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานระดับพรีเมียม อาทิ ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท (Engine Remote Start) ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสแบบรองรับ Apple CarPlay พร้อมด้วยพวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่นที่ให้การควบคุมระบบต่างๆ ทำได้อย่างง่ายดายเพียงปลายนิ้วสัมผัส และเพิ่มความหรูหราด้วยเบาะหนังสีน้ำตาลใหม่
ทั้งนี้ ฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด ใหม่ มีให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น HYBRID ราคา 1,659,000 บาท และ รุ่น HYBRID TECH ราคา 1,849,000 บาท โดยมีให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีเทาโมเดิร์นสตีล(เมทัลลิก) สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก) สีขาวออร์คิด (มุก) และสีดำคริสตัล (มุก)มาพร้อมสีภายในห้องโดยสาร 3 สี ได้แก่ สีเบจ สีดำ และสีใหม่ คือ สีน้ำตาล
ผู้ที่สนใจสามารถสัมผัสประสบการณ์การขับขี่ของที่สุดแห่งยนตรกรรมไฮบริดจากฮอนด้าหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ หรือwww.honda.co.th/accordhybrid
หมายเหตุ :
-อุปกรณ์มาตรฐานแตกต่างกันในแต่ละรุ่น
-สีภายใน แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับสีภายนอก
-สีดำคริสตัล (มุก) เพิ่มเงิน 8,000 บาท และสีขาวออร์คิด (มุก) เพิ่มเงิน 12,000 บาท
ทีมข่าวยานยนต์ รายงาน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี