6 ต.ค.59 นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า แนวทางการจัดตั้งบริษัทบริหารสินทรัพย์ หรือเอเอ็มซีเพื่อรับโอนหนี้ด้อยคุณภาพ(เอ็นพีแอล) ของธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย(ไอแบงก์) อาจจะมีการว่าจ้างบริษัทเอเอ็มซีที่มีหน้าที่หลักในการบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพทั้งเอ็นพีแอลและเอ็นพีเอ เช่น บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด มหาชน ( BAM ) หรือ บสก.และ บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด ( SAM )หรือ บสส. เข้ามาเป็นตัวแทนบริหารเอเอ็มซีที่กระทรวงการคลังจัดตั้ง
สำหรับแนวทางการรับซื้อและโอนหนี้เอ็นพีแอลนั้น เอเอ็มซีจะออกตั๋วสัญญาใช้เงินให้กับไอแบงก์ พร้อมกับการรับโอนเอ็นพีแอลที่ไม่ใช่มุสลิมซึ่งจะมีการประเมินมูลค่ารับซื้อโดยจะต้องพิจารณาจากหลักประกันของลูกหนี้แต่ละราย เพราะลูกหนี้บางรายนำทรัพย์สินไม่มีคุณภาพมาเป็นหลักประกัน เช่น ที่ดินมีปัญหาคือไม่มีทางออก หรือเรียกว่าที่ตาบอด ทำให้มีผลต่อการนำไปบริหารจัดการ ทำให้การประเมินมูลค่ารับซื้อต้องคำนึงไม่ให้เกิดผลกระทบในการบริหารจัดการหนี้เสียของเอเอ็มซีเองด้วย จะได้ไม่กลับมาเป็นเอ็นพีแอล หรือผลขาดทุนเสียเอง
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายรัฐวิสาหกิจ(สคร.) กล่าวว่า มูลค่าการรับซื้อหนี้เสียของไอแบงก์จะต้องประเมินหลังจากที่จัดตั้งเอเอ็มซีแล้ว โดยมูลหนี้เอ็นพีแอลที่คาดว่าจะรับโอนมาจากไอแบงก์อาจมีสูงถึง 5 หมื่นล้านบาท จากปัจจุบันเอ็นพีแอลไอแบงก์มีอยู่ทั้งสิ้นกว่า 5 หมื่นล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นชาวมุสลิมเพียงกว่า 3,000 ล้านบาท
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 27 ก.ย.59 ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติเห็นชอบให้กระทรวงการคลังจัดตั้งบริษัทบริหารสินทรัพย์ หรือเอเอ็มซี เพื่อรับโอนหนี้ด้อยคุณภาพ(เอ็นพีเอฟ)ของไอแบงก์ ที่ไม่ใช่มุสลิมทั้งหมดประมาณ 4.7 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็น 43.40% ของสินเชื่อรวมทั้งหมดของไอแบงก์มาบริหารจัดการ โดยกระทรวงการคลังถือหุ้นเต็ม 100% และมีสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(สคร.) เป็นผู้กำกับดูแล
ทั้งนี้ การโอนหนี้เอ็นพีเอฟที่ไม่ใช่มุสลิมทั้งหมดมาเอเอ็มซี เพื่อให้สิทธิ์ในการบริหารหลักประกัน ปรับโครงสร้างหนี้ หรือฟ้องร้องดำเนินคดีตามกฎหมาย และยังทำให้ไอแบงก์เกิดความคล่องตัวเพิ่มมากขึ้นในการดำเนินธุรกิจ เนื่องจากปัจจุบันไอแบงก์มีเอ็นพีเอฟ หรือหนี้เสียเป็นจำนวนมาก ทำให้ธนาคารบริหารได้ไม่เต็มที่ รวมถึงยังเป็นการเปิดทางให้พันธมิตรผู้ที่จะเข้ามาร่วมทุนรายใหม่ ให้เกิดความมั่นใจในส่วนนี้ด้วย
สำหรับการจัดตั้งบริษัทบริหารสินทรัพย์ หรือเอเอ็มซีเพื่อมารับซื้อเอ็นพีแอลไอแบงก์ ที่ผ่านมาเคยเกิดขึ้นในลักษณะเดียวกันโดยมีการจัดตั้งบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (TAMC) หรือ บสท.ที่ถูกจัดตั้งขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่ในการบริหารหนี้เสียที่เกิดจากวิกฤตต้มยำกุ้งปี 2540 โดย บสท.ได้รับโอนหนี้เสียของธนาคารพาณิชย์จำนวน 7.7 แสนล้านบาทเข้ามาบริหาร ซึ่งมีทั้งในรูปของการปรับโครงสร้างหนี้ และการจำหน่ายสินทรัพย์รอการขาย (NPA) โดย บสท.ออกตั๋วสัญญาใช้จ่ายเงินซื้อหนี้เสียออกมาจากธนาคารพาณิชย์คิดเป็นมูลค่า 2.4 แสนล้านบาท หรือมีต้นทุนในการซื้อทรัพย์สินอยู่ที่ 3.1%
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี