นายตรรก บุนนาค ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านโกลบอลมาร์เก็ตธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY เปิดเผยว่า ภาวะตลาดการเงินหลังผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐถือว่ามีความผันผวนน้อยกว่ากรณี Brexit โดยดัชนีชี้วัดตลาดหุ้นทั่วโลกหรือ MSCI World index ลดลงเพียง 2% หากเทียบกับกรณี Brexit มีการปรับลดลง 5%
อย่างไรก็ตามมองภาคการส่งออกของไทยในระยะยาวอาจได้รับผลกระทบจากนโยบายเศรษฐกิจของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเป็นผลจากนโยบายกีดกันการค้า กำแพงภาษี โดยเป็นสิ่งที่สร้างความไม่แน่นอนต่อเศรษฐกิจโลกและประเทศผู้ส่งออก ขณะที่มาตรการลดภาษีและการขยายการลงทุนภาครัฐ จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐในระยะสั้น แต่จะส่งผลกระทบต่อสถานะการคลังของสหรัฐในระยะยาว รวมทั้งอัตราผลตอบแทน (Yield Curve) มีแนวโน้มชันขึ้น
“ตลาดการเงินยังคงมีความผันผวน หลังจากนายทรัมป์ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี แต่ก็ถือว่าผันผวนน้อยกว่ากรณี Brexit ซึ่งดัชนี MSCI World index ปรับลดลงเพียง 2% แต่สิ่งที่น่ากังวลคือนโยบายเศรษฐกิจของนายทรัมป์ที่จะกดดันเศรษฐกิจ
ทั่วโลก โดยเฉพาะมาตรการกีดกันการค้า และการตั้งกำแพงภาษีจะส่งผลกระทต่อภาคการส่งออก โดยเฉพาะการส่งออกของไทยที่ต้องเหนื่อยมากขึ้นในปี 2560” นายตรรก กล่าว
สำหรับแนวโน้มตลาดการเงินในปี 2560 มองว่าธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟด จะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนธันวาคม 2559 และปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.5% ในปี 2560 ท่ามกลางการคาดการณ์เงินเฟ้อที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นแรงส่งด้านขาขึ้นต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐมีแนวโน้มสูงขึ้น โดยการเทขายพันธบัตรทั่วโลกจะเป็นปัจจัยกระตุ้นเงินไหลออกจากกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่
ทั้งนี้มองว่าจากประเด็นดังกล่าวจะเป็นปัจจัยกดดันเงินบาทในทิศทางอ่อนค่าในระยะ 1-2 ไตรมาสข้างหน้า แต่คาดว่าเงินบาทจะกลับมาแข็งค่าอย่างค่อยเป็นค่อยไปในช่วงครึ่งหลังของปี 2560 เมื่อเศรษฐกิจสหรัฐชัดเจนมากขึ้น โดยคาดการณ์ค่าเงินบาทสิ้นปี 2559 อยู่ที่ระดับ 35.75-36.08 บาท และคาดการณ์ค่าเงินบาทสิ้นปี 2560 อยู่ที่ระดับ 36.25บาท ส่วนปัจจัยที่นักลงทุนจับตามองคือ เรื่องของ Brexit และความเสี่ยงที่ผลโหวตในหลายประเทศยุโรปจะเป็นไปในทางเดียวกันกับ Brexit รวมทั้งในปี 2560 จะมีการเลือกตั้งในหลายประเทศของยุโรป เช่น ฝรั่งเศส และเยอรมนี ซึ่งอาจสร้างความผันผวนต่อเนื่อง
ในส่วนของเศรษฐกิจไทยในปี 2560 นั้น มองว่าตัวเลขจีดีพีจะมีอัตราการเติบโตที่ระดับ 3.2-3.3% และคาดหวังว่าการส่งออกของไทยยังมีโอกาสเติบโตมากขึ้น แต่จะเป็นการเติบโตในบางอุตสาหกรรมที่มีการปรับโครงสร้างใหม่ ขณะที่แนวโน้มอัตรา
ดอกเบี้ยนโยบายของไทยคาดว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 1.5% ตลอดทั้งปี 2560 เพื่อเอื้อต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจ ขณะที่นโยบายการคลังและธุรกิจท่องเที่ยวยังเป็นปัจจัยสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ด้านเงินเฟ้อเริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ธปท.ยังต้องการรักษาพื้นที่สำหรับการปรับนโยบายเมื่อจำเป็น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี