เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2561 นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมติดตามการดำเนินโครงการสำคัญต่าง ๆ ของกระทรวงคมนาคม โดยมี นายอาคมเติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รมช.คมนาคม ผู้บริหารกระทรวง และหัวหน้าหน่วยงานในสังกัด ได้แก่ กรมทางหลวง(ทล.) กรมทางหลวงชนบท(ทช.)การรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) ร่วม
นายสมคิด กล่าวว่า ขณะนี้ก็กำลังเข้าสู่การจัดทำแผนงบประมาณปี 2562 โดยนโยบายหลักของรัฐบาลคือต้องการลดปัญหาความเหลื่อมล้ำจึงต้องการให้ทาง ทล. ทช. การรถไฟฯและ สนข.กลับไปตรวจสอบแผนโครงการเพื่อเรียงลำดับความสำคัญของโครงการ ให้เกิดการเชื่อมเส้นทางระหว่างจังหวัด และเมืองรองให้มากขึ้น ซึ่งหากโครงการใดที่แต่เดิมอยู่ในปีงบประมาณปี 2563-2564 สามารถปรับเปลี่ยนมาดำเนินการในปี 2562 ได้ก็ควรจะทำในทันที โดยให้กระทรวงคมนาคมเป็นแกนหลัก และกระจายงานไปยังหน่วยงานต่างๆ ในสังกัดกระทรวง
ทั้งนี้ในอีก 3-4 ปีข้างหน้าในการดำเนินการโครงการต่างๆ จะต้องมีการทำงานร่วมกับเอกชนจึงมีการได้มีการเชิญภาคเอกชนเข้ามาหารือ รวมถึงได้มีการเน้นให้คำนึงถึงความปลอดภัยในการก่อสร้าง ให้ผู้รับเหมาการทำงานให้ต่อเนื่องไม่ทอดทิ้งงาน
ในส่วนของกรมทางหลวงชนบท มีนายพิศักดิ์จิตวิริยะวศิน อธิบดีกรมทางหลวงชนบท พร้อมคณะได้นำเสนอผลงานที่ดำเนินการในปี 2560 ถนนเข้าสู่แหล่งท่องเที่ยว และแผนแม่บทที่จะดำเนินการในอนาคตในการนี้ รองนายกรัฐมนตรี ได้ให้นโยบาย กรมทางหลวงชนบทเกี่ยวกับการก่อสร้างถนนโครงข่ายที่เชื่อมถึงกันให้สมบูรณ์เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม อีกทั้งยังเน้นย้ำให้ กรมทางหลวงชนบทใช้ยางพาราในการก่อสร้างถนนเข้าสู่แหล่งท่องเที่ยวเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ตามนโยบายของรัฐบาล
ด้านนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคมกล่าวว่า ในส่วนของโครงการที่คาดว่าจะสามารถโยกย้ายจากปีงบประมาณ 2563-2565 มายังปี 2562 ได้คือโครงการพัฒนาถนนในพื้นที่ EEC วงเงิน 48,490 ล้านบาท เนื่องจากโครงการ EEC ยังมีปัญหาเรื่องการจราจร และการจะทำเส้นทางรถไฟไปยังนิคมอุตสาหกรรมจะไม่คุ้มค่าเท่ากับการทำถนน
นอกจากนี้ยังให้ทาง ทช.และ ทล.ไปหารือกับผู้เหมาที่ได้สัญญาสัมปทานในปี 2561 ในการใช้ยางพาราจากเกษตรกรให้มากขึ้น และในสัปดาห์หน้าที่ทางกระทรวงจะมีประชุมหารือกับผู้ประกอบการผลิตยางแอสฟัลต์ให้รับซื้อยางพาราใหม่กับเกษตรกรในปี 2561 อีก 40,000 ตัน ในการนำมาพัฒนาเส้นทางถนน
ส่วนด้านนายธานินทร์ สมบูรณ์ อธิบดีกรมทางหลวง(ทล.) กล่าวว่านายสมคิด รองนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้เร่งรัดโครงการก่อสร้างทางของโครงการก่อสร้างถนน ในพื้นที่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก(EEC) ใช้งบประมาณก่อสร้างด้านถนนภายใน EEC ประมาณ 48,000 ล้านบาท เพื่อแก้ปัญหาจราจรและสร้างระบบโลจิสติกส์ภายในโครงการ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี