นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีการจับกุมมิจฉาชีพอ้างเป็นคอลเซ็นเตอร์ หลอกลวงให้โอนเงินว่า การกระทำผิดของแก๊งคอลเซ็นเตอร์เป็นการดำเนินการในต่างประเทศ โดยมิจฉาชีพจะแปลงหมายเลขโทรศัพท์ให้เป็นหมายเลขของผู้รับปลายทาง ซึ่งมีทั้งหน่วยงานของรัฐและบุคคลทั่วไปจำนวน 50 เลขหมาย จากนั้นจะใช้การโทรศัพท์ผ่านอินเตอร์เนต ผ่านมาที่เกตเวย์ของผู้ให้บริการปลายทางในประเทศไทย ( บมจ.กสท โทรคมนาคม, บมจ.ทีโอที, บมจ.เอไอเอส, บมจ.ดีแทค, บมจ.ทรูมูฟ และ 3BB) ก่อนจะติดต่อไปถึงประชาชน โดยประชาชนจะเห็นเป็นหมายเลขของหน่วยราชการและบุคคลที่มีชื่อเสียงติดต่อมาและหลงเชื่อทำการโอนเงิน
นอกจากนี้ กสทช. และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้วางมาตรการชั่วคราวที่จะดำเนินการ โดยการบล็อกหมายเลขที่แปลงมาเบอร์ดังกล่าว ไม่ให้สื่อสารผ่านอินเตอร์เนตเข้ามาในประเทศไทย
ส่วนมาตรการระยะกลางหลังจากทำการบล็อกแล้วผู้ให้บริการส่งเบอร์จริงที่ตรวจสอบได้ ไปยังผู้รับปลายทางเพื่อไว้คอยตรวจสอบ จากนั้นจะวางมาตรการไม่ให้เบอร์ ที่ถูกปลอมแปลงมาส่งไปหาผู้ใช้ปลายทางได้ เพื่อทำการตรวจสอบไปถึงต้นทาง กสทช.จะร่วมกับโอเปอเรเตอร์ ทุกค่ายทำฐานข้อมูลเพื่อตรวจสอบย้อนกลับให้รู้ว่าหมายเลขที่แปลงมามีจุดปลายทางติดต่อมาจากประเทศไหน สำหรับมาตรการระยะยาวหน่วยงานที่รับผิดชอบจะวางมาตรการป้องกันที่มีประสิทธิภาพต่อไป
“ทั้ง 50 เบอร์มาจากต่างประเทศทั้งหมด แต่เรายังเปิดเผยไม่ได้เพราะอยู่ระหว่างการตรวจสอบ โดยกสทช.จะมีความร่วมมือทางเทคนิคเพื่อทำระบบที่ถูกต้องในการวางมาตรการป้องกันในการประชุมกับตำรวจโอเปอเรเตอร์ทุกค่ายพร้อมจะร่วมมือทำฐานข้อมูลเพื่อหาทางแก้ไขปัญหา” นายฐากร กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี