นายประพนธ์ วงษ์ท่าเรือ อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) เปิดเผยว่า ตามที่ พพ. ได้ให้การสนับสนุนงบประมาณแก่หน่วยงานต่างๆ สำหรับดำเนินโครงการด้านพลังงานทดแทนและด้านอนุรักษ์พลังงาน ภายใต้งบประมาณจากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน แต่ปัจจุบันนี้ พบว่ามีบริษัทบางรายแสดงพฤติกรรมแอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ ของ พพ. เพื่อสร้างผลประโยชน์ทางธุรกิจ โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ด้วยวิธีการเสนอว่าสามารถให้การช่วยเหลือแก่หน่วยงานราชการหรือผู้ประกอบการ เพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อดำเนินโครงการด้านพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน จาก พพ. ได้
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการรักษาสิทธิประโยชน์ และป้องกันการเข้าใจผิดของหน่วยงาน พพ. จึงขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่า พพ. ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำดังกล่าว หากตรวจพบการกระทำผิดเป็นเหตุ ให้ พพ. ได้รับความเสียหาย พพ. ก็จะดำเนินคดีทางกฎหมายให้ถึงที่สุด
ล่าสุดพพ.ได้มีการสัมมนา เพื่อชี้แจงผลการดำเนินงานกำกับดูแล และส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานตามกฎหมายที่ได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติ การส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ.2535(แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2550) ที่กำหนดให้มีการแต่งตั้งผู้รับผิดชอบด้านพลังงาน และการดำเนินการจัดการพลังงาน ซึ่งปัจจุบันมีอาคารควบคุมเอกชน จำนวน 2,150 แห่ง
ผลการดำเนินงานที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน มีอาคารควบคุมได้แต่งตั้งผู้รับผิดชอบด้านพลังงาน 1,463 แห่ง และจัดส่งรายงานการจัดการพลังงานให้ พพ. 1,689 แห่ง คิดเป็น 79% ของอาคารควบคุมเอกชนมีผลการประหยัดพลังงานเกิดขึ้นประมาณ 15.25 ktoe/ปี ซึ่งประสบความสำเร็จตามเป้าและในรอบการจัดการพลังงานประจำปี 2560 พพ.ได้กำหนดให้โรงงาน/อาคารควบคุม ที่มีการติดตั้งหม้อแปลงไฟฟ้าไว้ใช้งานขนาดตั้งแต่ 1,175 kVA ขึ้นไป หรือใช้พลังงานรวมตั้งแต่ 20 ล้านเมกะจูลต่อปี ต้องเริ่มเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบและรับรองการจัดการพลังงาน เพื่อให้กิจกรรมการอนุรักษ์พลังงานตามกฎหมายเป็นไปอย่างต่อเนื่อง และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี