นายพรชัย รุจิประภา ประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านพลังงาน เปิดเผยว่า คณะกรรมการปฏิรูปฯ ได้จัดทำแนวทางดำเนินการปฏิรูปด้านปิโตรเลียมและปิโตรเคมี โดยเสนอต่อภาครัฐว่าควรมี “แผนพัฒนาอุตสาหกรรมปิโตรเคมีระยะที่ 4” เพื่อยกระดับขีดความสามารถการแข่งขัน สร้างรายได้ให้กับประชาชน พร้อมกับรองรับอุตสาหกรรมเป้าหมายแห่งอนาคต (New S-curve) ซึ่งเป็นกลไกในการขับเคลื่อนประเทศเข้าสู่ “Thailand 4.0” โดยควรจัดทำให้แล้วเสร็จภายใน 2 ปี หรือภายในปีงบประมาณ ปี 2562 เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของภาครัฐนำไปดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 5 ปีหรือช่วงปีงบประมาณ พ.ศ. 2563-2567 ส่วนแหล่งเงินลงทุนได้เสนอให้เป็นการใช้งบประมาณแผ่นดิน เนื่องจากเป็นเรื่องระดับประเทศ
สำหรับการดำเนินการ แบ่งเป็นระยะแรกพัฒนาโครงการในพื้นที่ภาคชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก(อีอีซี)ลงทุนตั้งต้นน้ำถึงปลายน้ำ โดยลงทุนสร้างโรงงานปิโตรเคมีขั้นต้นที่ใช้ก๊าซปิโตรเลียม(LPG) เป็นวัตถุดิบ
ส่วนในระยะยาว ได้เสนอให้หาพื้นที่ใหม่เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพส่งเสริมการกระจายรายได้สู่พื้นที่อื่น โดยคณะกรรมการปฏิรูปฯ ได้เสนอพื้นที่ภาคใต้ เนื่องจากมีชายฝั่งทะเล 2 ด้าน เหมาะสมที่จะทำเป็นอุตสาหกรรมฯครบวงจร โดยควรมีการพัฒนาคอมเพล็กซ์โรงกลั่นและโรงงานปิโตรเคมีเข้าด้วยกัน ให้มีกำลังการผลิตขนาดเทียบเคียงกำลังการผลิตขนาดใหญ่ในโลก ฯลฯ
ซึ่งต้องพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านระบบสาธารณูปโภคให้รองรับ และให้ได้รับสิทธิประโยชน์การลงทุนทัดเทียมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษตะวันออก หรือ อีอีซี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี