บริษัท มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย จำกัดเผยผลประกอบการปีที่ผ่านมา กวาดตัวเลขมากถึง 51,355 คัน เติบโตขึ้น 21%คาดการณ์ตลาดรถยนต์รวมในปี 2018 จะมียอดจำหน่ายกว่า 920,000 คัน ขณะที่มาสด้า เตรียมเปิดตัว 4 รุ่นใหม่ ตั้งเป้ายอดขายรวมอยู่ที่ 60,000 คัน ส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 6%
นายชาญชัย ตระการอุดมสุข ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัดกล่าวว่า เศรษฐกิจไทยมีการขยายตัวและปรับตัวดีขึ้นมาตั้งแต่ต้นปี โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการลงทุนภาครัฐอย่างต่อเนื่อง, การฟื้นตัวของรายได้เกษตรกร และรายได้ในภาคการท่องเที่ยว รวมถึงการปรับตัวดีขึ้นของตลาดรถยนต์ในประเทศ โดยเมื่อปีที่แล้ว ผู้เชี่ยวชาญต่างคาดการณ์ ยอดขายอุตสาหกรรมรถยนต์อยู่ที่ 800,000 คัน และขยับมาที่ 840,000 คัน แต่สามารถขายได้จริง 870,000 คัน เติบโต 13%
สำหรับมาสด้า มียอดจำหน่าย 51,355 คัน เติบโตขึ้น 21% ส่วนแบ่งตลาด 5.9% ในส่วนของยอดขายเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ทำสถิติใหม่เติบโตสูงสุด 39% จำนวน 6,257 คัน โดยมียอดจำหน่ายในแต่ละรุ่นประจำปี 2560 มีดังนี้
All New Mazda2 จำนวน 31,760 คัน เพิ่มขึ้น 37%
All New Mazda3 จำนวน 4,979 คันเพิ่มขึ้น 21%
All New Mazda CX-5 จำนวน 4,835 คัน เพิ่มขึ้น 46%
All New Mazda CX-3 จำนวน 3,812 คัน ลดลง 20%
New Mazda BT-50 PRO จำนวน 5,939 คัน ลดลง 16%
Mazda MX-5 จำนวน 30 คัน ไม่มีการเปลี่ยนแปลง
นายชาญชัย กล่าวถึงแผนพัฒนาธุรกิจของมาสด้าในปี 2561 ว่า “มาสด้าประเมินสถานการณ์ตลาดรถยนต์ของประเทศไทยมีแนวโน้มและทิศทางที่สดใส จะเห็นได้จากงานมอเตอร์ เอ็กซ์โปที่ผ่านมา แต่ละค่ายมียอดจองที่เพิ่มขึ้น เกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ รวมถึงในส่วนของมาสด้าเอง ก็มียอดจองที่สูงขึ้น โดยคาดว่ายอดขายตลาดรถยนต์ รวมจะเพิ่มขึ้น 5% หรือมากกว่า 920,000 คัน สำหรับมาสด้า ตั้งเป้าอยู่ที่ 60,000 คัน เติบโตเพิ่มขึ้น 15% ส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 6% โดยปีนี้จะเน้นการบริการทั้งก่อนและหลังการขาย ด้วยการเสริมศักยภาพของทีมงาน รวมถึงการแนะนำรถใหม่เข้าสู่ตลาด 4 รุ่น ควบคู่ไปกับกลยุทธ์การสื่อสารที่ฝ่ายการตลาดได้เพิ่มช่องทางการสื่อสาร เพื่อสร้างความใกล้ชิดกับลูกค้ามากขึ้น”
ทางด้าน นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาด กล่าวว่า “ปีนี้เราจะเน้นไปที่การสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าในระยะยาว โดยเริ่มจากพัฒนาโชว์รูมและศูนย์บริการ ภายใต้รูปลักษณ์และคอนเซ็ปต์ใหม่ของมาสด้า หรือ Mazda Corporate Identity เพื่อยกระดับแบรนด์และสร้างประสบการณ์ที่ดี ให้กับลูกค้าตั้งแต่ก้าวแรกที่เดินเข้ามาในโชว์รูม รวมไปถึงการเพิ่มช่องทางการสื่อสาร ให้ลูกค้ากับมาสด้า ใกล้ชิดกันมากขึ้น ด้วยรูปแบบการสื่อสารทางออนไลน์ หรือที่เรียกว่า Mazda Digital Platform ผ่านทางเว็บไซต์ www.mazda.co.th, Mobile site, Mazda
Thailand Official Facebook, YouTube, LINE และ Instagram สำหรับผู้ที่สนใจและกลุ่มผู้ใช้รถมาสด้าสามารถเข้าไปดูรายละเอียดต่างๆ ได้”
ขณะที่ นายอัสสึชิ ยาซูโมโต รองประธานบริหาร กล่าวเพิ่มเติมว่า มาสด้าประเทศไทยมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อมาสด้า เนื่องจากเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมหลายประเภท รวมถึงอุตสาหกรรมรถยนต์ ประเทศไทยมีศักยภาพ ทั้งในเรื่องของแรงงานและสถานที่ ซึ่งเหมาะแก่การลงทุนในระยะยาว นอกจากนี้ประเทศไทยยังเป็นตลาดหลักตลาดหนึ่งของมาสด้า ในด้านยอดขายที่สูงเป็นอันดับที่ 1 ในภูมิภาคอาเซียน สูงสุดติดกันมากกว่า 10 ปี
“ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์ครบวงจร แห่งแรกของมาสด้า นอกจากในประเทศญี่ปุ่น โดยสามารถผลิตทั้งเครื่องยนต์ เกียร์ รวมถึงการประกอบรถยนต์ ได้แก่ มาสด้า2, มาสด้า3, CX-3 และมาสด้า BT-50 โปรที่โรงงานออโต้อัลลายแอนซ์ จังหวัดระยอง นอกจากนี้ยังมีในส่วนของการผลิตที่โรงงานมาสด้า พาวเวอร์เทรน แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย (MPMT) โดยจะเพิ่มการผลิตไปในส่วนของการผลิต เครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง ซึ่งสื่อมวลชนจะได้ไปสัมผัสไลน์การผลิตแห่งใหม่ ในวันที่ 19 มกราคมนี้”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี