นายโนริอากิ โกโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าปี 2560 เป็นปีที่กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยาและบริษัทในเครือ) ดำเนินงานสำเร็จตามแผนธุรกิจระยะกลาง (ปี 2558-2560)ด้วยจำนวนสินทรัพย์สูงกว่าระดับ 2 ล้านล้านบาท และมีผลประกอบการที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง โดยปี 2560 เงินให้สินเชื่อเติบโต 7% ขณะที่ผลกำไรสุทธิสูงถึง 23.2 พันล้านบาท
“การดำเนินงานภายใต้การบริหารความเสี่ยงอย่างระมัดระวัง ส่งผลให้มีคุณภาพสินทรัพย์ที่แข็งแกร่ง โดยสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ปรับลดลงมาที่ 2.05% ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดหลังวิกฤติเศรษฐกิจเอเชีย” นายโนริอากิ โกโตะ กล่าว
สำหรับแนวโน้มธุรกิจในปี 2561 คาดว่าเศรษฐกิจจะยังคงขยายตัวต่อเนื่องและครอบคลุมทุกภาคส่วน โดยเศรษฐกิจจะขยายตัวที่ 4.0% มีปัจจัยขับเคลื่อนมาจากการเติบโตของภาคส่งออกและภาคการท่องเที่ยว รวมถึงแผนเร่งการลงทุนของภาครัฐด้านโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งนี้ด้วยสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเติบโต ประกอบกับการดำเนินกลยุทธ์ของกรุงศรีภายใต้แผนธุรกิจระยะกลาง ฉบับปัจจุบัน (ปี 2561-2563) กรุงศรีจึงตั้งเป้าการเติบโตของสินเชื่อในปี 2561 ไว้ที่ 6-8%
โดย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2560 กรุงศรีมีสินเชื่อรวม 1.55 ล้านล้านบาทเงินรับฝาก 1.32 ล้านล้านบาท และสินทรัพย์รวม 2.09 ล้านล้านบาท ขณะที่เงินกองทุนของธนาคารอยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 219.03 พันล้านบาท หรือเทียบเท่า 15.65% ของสินทรัพย์เสี่ยง โดยเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นของเจ้าของคิดเป็น 11.97%
นายกิตติพันธ์ อนุตรโสตถิ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหารธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผลการดำเนินงานของกลุ่มธนาคารสำหรับปี 2560 มีกำไรสุทธิ 384.9 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 1,014.4 ล้านบาท หรือ 161.1% เมื่อเทียบกับปี 2559 มีผลขาดทุนสุทธิ629.5 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการดำเนินงาน 1.8% และการลดลงของสำรองหนี้สงสัยจะสูญ 19.5% ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ระดับ 2.6%
ทั้งนี้เมื่อเทียบผลการดำเนินงานสำหรับปี 2560 และปี 2559 รายได้จากการดำเนินงานปี 2560 อยู่ที่ 13,154.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2559 จำนวน 226.6ล้านบาท หรือ 1.8% ส่วนใหญ่มาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิ 308.9 ล้านบาท หรือ 18.9% ซึ่งเกิดจากค่าธรรมเนียมจากการจัดจำหน่ายหน่วยลงทุน รายได้ค่าธรรมเนียมจากการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินและรายได้ธุรกรรมเช่าซื้อ และการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ 336.7 ล้านบาท หรือ 3.4% เป็นผลจากการลดลงของค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย 9.4%สุทธิกับการลดลงของรายได้จากการดำเนินงานอื่นจำนวน 418.9 ล้านบาท หรือ 29.4% สาเหตุหลักจากการลดลงของกำไรสุทธิจากเงินลงทุน
สำหรับสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2560 อยู่ที่ 10.7 พันล้านบาท อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อเงินให้สินเชื่อทั้งสิ้น (NPL ratio) อยู่ที่ 4.8% ลดลงเมื่อเทียบกับ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2559 อยู่ที่ 6.1% สาเหตุหลักจากการขายสินเชื่อด้อยคุณภาพในปี 2560 ประกอบกับมีมาตรการบริหารจัดการความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ และการบริหารคุณภาพสินทรัพย์ รวมถึงการปรับปรุงกระบวนการในการเรียกเก็บหนี้ที่มีอยู่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี