นายสมชาย หาญหิรัญ รมช.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ภายหลังคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(คนร.) เห็นชอบให้ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย(เอสเอ็มอีแบงก์) ออกจากแผนฟื้นฟูจึงเตรียมแผนช่วยเหลือและพัฒนาผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี) 4.0 ในปี 2561 โดยร่วมมือกับหลายหน่วยงานช่วยเหลือเอสเอ็มอีผ่านสินเชื่อใหม่ 3 โครงการ เตรียมวงเงิน 78,000 ล้านบาท ทยอยออกในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้
ประกอบด้วย สินเชื่อเพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชน (Local Economy Loan) วงเงิน 50,000 ล้านบาท สินเชื่อเพื่อปรับเปลี่ยนเครื่องจักรระยะที่ 2 (Transformation Loan) วงเงิน 20,000 ล้านบาท เป็นโครงการร่วมกับแบงก์รัฐและแบงก์พาณิชย์ช่วยเหลือเอสเอ็มอี และโครงการฟื้นฟูและเสริมสร้างศักยภาพเอสเอ็มอีคนตัวเล็ก (Micro SMEs) วงเงิน 8,000 ล้านบาท พร้อมออกมาตรฐานอุตสาหกรรม(มอก.S) สำหรับเอสเอ็มอี คงคุณภาพสินค้าตามความต้องการของตลาด เพื่อบุกตลาดประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้น รวมทั้งสนับสนุนเกษตรแปรรูปการท่องเที่ยวชุมชน
นายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการ เอสเอ็มอีแบงก์ กล่าวว่า หลังจากออกจากแผนฟื้นฟูฯ เรามุ่งเน้นปล่อยสินเชื่อ วงเงินสูงสุดไม่เกิน 15 ล้านบาท และปรับองค์กรให้เป็น “M SME Development Bank” โดยตัว “M” มาจากคำว่า “Micro” เพื่อสนับสนุนกลุ่ม “จุลเอสเอ็มอี” หรือผู้ประกอบการรายย่อยคนตัวเล็กในชุมชน การปล่อยสินเชื่อจากเอสเอ็มอีแบงก์จากนี้ไป จึงเน้นรายย่อยไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อรายมากขึ้น จากเดิมเน้นไม่เกิน 5,15 ล้านบาท จึงคาดว่าเป้าหมายสินเชื่อเอสเอ็มอีตัวเล็ก จะทำให้เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ กระจายรายได้ไปทั่วประเทศ
สำหรับเอสเอ็มอีแบงก์เตรียมแพ็กเกจสินเชื่อเพื่อรายย่อยวงเงินรวม 70,000 ล้านบาท แบ่งออกเป็น 3 โครงการ ได้แก่ โครงการสินเชื่อเพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชน วงเงิน 50,000 ล้านบาท เน้นช่วยเหลือธุรกิจท่องเที่ยว ท่องเที่ยวชุมชน และเกษตรแปรรูป วงเงินกู้ไม่เกิน 5 ล้านบาท 3 ปีแรก คิดอัตราดอกเบี้ย 3% ต่อปี ฟรีค่าธรรมเนียม บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม(บสย.) 4 ปีแรก
โครงการฟื้นฟูและเสริมศักยภาพวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม สำหรับเอสเอ็มอีคนตัวเล็ก วงเงิน 8,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยเพียง 1% และสินเชื่อ Factoring วงเงิน 12,000 ล้านบาท กู้ต่อรายไม่เกิน 15 ล้านบาท โดยมีโปรโมชั่น 7:1:0 โดย 7 ตัวแรก คือ พร้อมอนุมัติสินเชื่อภายใน 7 วัน, 1 คือ เบิกจ่ายภายใน 1 วัน และ 0 คือ ฟรีค่าธรรมเนียมเรียกเก็บหนี้การมุ่งช่วยเหลือเกษตรกรจะไม่ให้ซ้ำซ้อนกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) เพราะ ธ.ก.ส.ช่วยเหลือเกษตรภาคการผลิต
ขณะที่เอสเอ็มอีแบงก์ต้องการส่งเสริมด้านเกษตรแปรรูป การตลาด การสร้างมูลค่าเพิ่ม รวมทั้งผู้ประกอบการท่องเที่ยวชุมชน หากไม่มีหลักประกันส่งให้ บสย.ค้ำประกันสินเชื่อ คิดค่าธรรมเนียม 1.75% เป็นเวลา 4 ปี เพราะต้องการมุ่งช่วยเหลือผู้มีโครงการแนวคิดดีมีศักยภาพ ต้องการคุมยอดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล) ไม่ให้เกิน 0.25% ภายในปี 2561 ขณะที่สินเชื่อตั้งแต่อยู่ในแผนฟื้นฟูปี 2558-2560 จะคุมให้ไม่เกิน 5% คาดว่าสิ้นปีนี้จะมีสินเชื่อคงค้าง 150,000 ล้านบาท
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี