นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรมเตรียมเสนอมาตรการพัฒนาผลิตภาพ (โปรดักส์ทิวิตี้) เอสเอ็มอี 4.0 เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายในวันที่ 30 มกราคมนี้ โดยจะจัดทำเป็นแผนตลอดทั้งโครงการในระยะเวลา 3 ปี (2561-2563) เพื่อยกระดับผลิตภาพ ลดต้นทุน และส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการ 5 หมื่นราย ให้มีความสามารถในการแข่งขัน ผ่านมาตรการต่างๆ เช่น ดูแลต้นทุนของเอสเอ็มอีให้ต่ำลง ส่งเสริมให้มีการปรับเปลี่ยนเครื่องจักรโดยเชื่อมโยงกับกองทุนทรานส์ฟอร์เมชั่น ตั้งทีมผู้เชี่ยวชาญเข้าไปช่วยเรื่องกระบวนการจัดซื้อทั้งวัตถุดิบและเครื่องจักร เป็นต้น
สำหรับเป้าหมายการดำเนินงานในระยะ 3 ปี คือ ปีที่ 1จะส่งเสริมให้ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ 1 หมื่นรายเกิดการลดต้นทุนเฉลี่ย 10% โดยคาดว่าจะต้องใช้งบประมาณในการดำเนินงานประมาณ 800 ล้านบาท ปีที่ 2 จะส่งเสริม 2 หมื่นราย และปีที่ 3 อีก 2 หมื่นราย โดยสัดส่วนในการลดต้นทุนขึ้นอยู่กับเป้าหมายที่จะกำหนดในปีต่อๆ ไป ส่วนงบประมาณที่จะใช้ขึ้นอยู่กับรูปแบบที่อาจปรับเปลี่ยนไปเป็นการใช้คูปองส่งเสริมเอสเอ็มอี
ทั้งนี้การคัดเลือกเอสเอ็มอีที่จะเข้าร่วมโครงการจะต้องอาศัยการ ทำงานร่วมกับคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ที่จะมีการประชุมร่วมกันในวันที่ 29 มกราคมนี้ โดยเบื้องต้นจะให้ กกร.เป็นผู้ช่วยประสานข้อมูลเอสเอ็มอีที่มีความพร้อม เนื่องจากมีข้อมูลของเอสเอ็มอีอยู่แล้ว และจะขอความร่วมมือให้ช่วยจัดกลุ่มธุรกิจให้ตรงกับเป้าหมายการพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศด้วย ขณะเดียวกันจะบูรณาการการทำงานไปกับมาตรการ 9 ข้อ เพื่อขับเคลื่อนเอสเอ็มอีของประเทศ
“สำหรับมาตรการดังกล่าวนี้จะเป็นส่วนหนึ่งของการเข้าไปเสริมและ ยึดโยงกับ 9 มาตรการ โดยจะต้องทำงานร่วมกับธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือเอสเอ็มอีแบงก์ ร่วมสถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติในการเข้าไปวินิจฉัยว่า เอสเอ็มอีแต่ละรายที่เข้าร่วมโครงการจะต้องปรับตรงไหนเพื่อเพิ่มโปรดักส์ทิวิตี้ นอกจากนี้ ก็อาจจะมีมาตรการของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) มาช่วยขับเคลื่อนด้วย โดยการลดต้นทุน 10% ถือว่าเป็นการลดต้นทุนที่เยอะมาก จากปัจจุบันที่ผู้ประกอบการมีต้นทุนการผลิตประมาณ 30% ช่วยผู้ประกอบการมีขีดความสามารถในการแข่งขันที่ดีขึ้น” นายอุตตม กล่าว
โดยมาตรการ 9 ข้อ เพื่อพัฒนาส่งเสริมเอสเอ็มอี ประกอบด้วย 1.การขยายศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม (ไอทีซี) ทั่วประเทศ 23 แห่ง ซึ่งจะให้บริการเครื่องจักรกลาง และพื้นที่โค-เวิร์กกิ้งสเปส เพื่อให้เอสเอ็มอีมีพื้นที่ในการพัฒนาสินค้าต้นแบบใหม่ๆ 2.ศูนย์สนับสนุนช่วยเหลือเอสเอ็มอี ทำหน้าที่รับเรื่องบูรณาการที่ปรึกษา รับคำขอกู้เงิน แก้ไขปัญหาและส่งต่อเอสเอ็มอี 3.การสร้างโค้ช 4.จัดทำข้อมูลประชากรเอสเอ็มอีของประเทศ ที่สามารถใช้วิเคราะห์โครงสร้าง และสถานการณ์เอสเอ็มอีของประเทศ 5.โครงการพี่ช่วยน้อง เพื่อเชื่อมต่อเอสเอ็มอีสู่ห่วง โซ่การผลิตระดับโลก 6.ดิจิทัล แวลู เชน ผลักดันเอสเอ็มอีสู่ห่วงโซ่การผลิตโลกผ่านดิจิทัลแพลตฟอร์ม 7.โครงการเสริมแกร่งเอสเอ็มอีรอบรู้การเงิน 8.เอสเอ็มอี สแตนดาร์ด อัพ และ 9.การยกระดับเศรษฐกิจฐานชุมชน ผ่านโครงการยกระดับอุตสาหกรรมชุมชนเชื่อมโยงการท่องเที่ยว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี