นายสมพร ว่องวุฒิพรชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ปตท.สผ. เผยว่าปี 2560 ปตท.สผ. มีรายได้รวม 4,523 ล้านดอลลาร์ สรอ. (เทียบเท่า 153,198 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นจาก 4,339 ล้านดอลลาร์ สรอ. (เทียบเท่า 152,745 ล้านบาท) ในปี 2559
โดยมีกำไรจากการดำเนินงานปกติอยู่ที่ 836 ล้านดอลลาร์ สรอ. เติบโตร้อยละ 80 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าเป็นผลหลักจากราคาขายผลิตภัณฑ์เฉลี่ยที่ปรับตัวดีขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมันโลกจาก 35.91 ดอลลาร์ สรอ. ต่อบาร์เรล เทียบเท่าน้ำมันดิบในปีก่อนหน้าเป็น 39.20 ดอลลาร์ สรอ. ต่อบาร์เรล เทียบเท่าน้ำมันดิบ และมีกำไรสุทธิ 594 ล้านดอลลาร์ สรอ.(เทียบเท่า 20,579 ล้านบาท) ปรับตัวสูงขึ้นกว่าร้อยละ 60 จากปีก่อนหน้าถึงแม้จะมีการรับรู้ขาดทุนจากการด้อยค่าสินทรัพย์เนื่องจากการปรับแผนการลงทุน ของโครงการมาเรียนา ออยล์ แซนด์ จำนวน 558 ล้านดอลลาร์ สรอ.
ในขณะที่ต้นทุนต่อหน่วย (Unit Cost)ลดลงจาก 30.46 ดอลลาร์ สรอ. ต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ มาอยู่ที่ 29.05 ดอลลาร์ สรอ. ต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ ถึงแม้ว่าในปีที่ผ่านมา ปตท.สผ. ได้รับผลกระทบจากความต้องการรับก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยลดลง
“จากผลประกอบการข้างต้น คณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2561 อนุมัติเสนอจ่ายเงินปันผล สำหรับปี 2560 ที่ 4.25 บาทต่อหุ้น”
นายสมพรกล่าวต่อว่า ปตท.สผ. ได้จัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2561ไว้ที่ 3,103 ล้านดอลลาร์สรอ. (เทียบเท่า 105,510 ล้านบาท) โดยแบ่งเป็นรายจ่ายลงทุน (Capital Expenditure หรือ CAPEX) จำนวน 1,771 ล้านดอลลาร์ สรอ. (เทียบเท่า 60,227 ล้านบาท) และรายจ่ายดำเนินงาน (Operating Expenditure หรือ OPEX) จำนวน 1,332 ล้านดอลลาร์ สรอ. (เทียบเท่า 45,283 ล้านบาท)
สำหรับแผนงานที่สำคัญของ ปตท.สผ. ในปี 2561 ที่ต้องเร่งทำ เพื่อเพิ่มปริมาณการผลิตในอนาคต 3 โครงการ ได้แก่ โครงการโมซัมบิก โรวูมา ออฟชอร์ แอเรีย วัน ซึ่งตั้งเป้าการผลิตในปี 2566 ด้วยกำลังผลิตก๊าซธรรมชาติ 12 ล้านตันต่อปี ขณะนี้ได้เริ่มการเคลื่อนย้ายชุมชนออกจากพื้นที่ก่อสร้างของโครงการและอยู่ระหว่างการขออนุมัติแผนพัฒนา โครงการแอลจีเรีย ฮาสสิเบอร์ ราเคซ อยู่ระหว่างรอผลการอนุมัติแผนพัฒนาจากรัฐบาลแอลจีเรีย โดยคาดว่าจะได้รับอนุมัติภายในไตรมาส 1 ปี 2561 และโครงการเวียดนาม บี และ 48/95 และ 52/97 ซึ่งมีเป้าหมายจะผลิตก๊าซธรรมชาติในปี 2564 ด้วยกำลังการผลิตรวม 490 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน
“ในปีนี้ ปตท.สผ. จะร่วมประมูลสัมปทานที่กำลังจะหมดอายุด้วยอย่างแน่นอน ทั้งแหล่งบงกชและเอราวัณ เพื่อเพิ่มปริมาณสำรองและปริมาณการผลิตให้กับบริษัท และเป็นส่วนสำคัญในการเสริมสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศ ในขณะเดียวกันเรายังมองหาโอกาสการลงทุนเพิ่มเติมในพื้นที่ยุทธศาสตร์หลักของ ปตท.สผ. ทั้งในประเทศไทยในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และตะวันออกกลาง รวมถึงการมองหาโอกาสต่อยอดธุรกิจก๊าซธรรมชาติให้ครบวงจรในประเทศที่เรามีความสามารถในการแข่งขันจากการที่เรามีฐานทางธุรกิจมาก่อน” นายสมพร กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี