นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าลงอย่างรุนแรง ส่งผลให้เงินสกุลต่างๆ ในภูมิภาครวมทั้งเงินบาทปรับแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่ง ธปท. กังวลว่า หากเงินบาทยังมีแนวโน้มแข็งค่าอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง อาจกระทบต่อภาคเศรษฐกิจจริงได้ ธปท. จึงจะยกระดับการดูแลและเพิ่มความเข้มงวดในการติดตามการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท และเงินทุนเคลื่อนย้ายอย่างใกล้ชิด พร้อมทบทวนมาตรการเพิ่มเติมหากเห็นว่าการเคลื่อนไหวของค่าเงินผิดปกติ และกำชับสถาบันการเงินให้มีความเข้มงวดในการทำธุรกรรมว่าผิดหลักการหรือไม่
“ค่าเงินเปรียบเสมือนเหรียญที่มี 2 ด้าน มีทั้งผลกระทบด้านบวกและลบ นโยบายเงินบาทของธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นนโยบายที่ต้องดูแลคนหลายกลุ่ม เพราะมีคนได้ประโยชน์และเสียประโยชน์ ดังนั้นวิธีที่จะดูแล คือไม่มองระยะสั้น แต่ต้องมองในระยะไกลและมองผลประโยชน์โดยรวมเป็นหลักไม่ใช่ประโยชน์ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ดังนั้นภาคเอกชนต้องบริหารความเสี่ยง และควรตั้งราคาสินค้าด้วยเงินสกุลท้องถิ่น หรือเงินสกุลบาท เพื่อลดผลกระทบจากความผันผวนของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งที่ผ่านมาการส่งออกไปยังสหรัฐมีสัดส่วนร้อยละ 10-11 ของการส่งออกรวม จึงสามารถดำเนินการได้” นายวิรไท กล่าว
นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล อดีตผู้ว่าฯธปท. กล่าวว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐมีโอกาสเคลื่อนไหวทั้ง 2 ทิศทาง ทั้งแข็งค่า และอ่อนค่า ดังนั้นนักลงทุนที่จะเก็งกำไรค่าเงินต้องระมัดระวัง อาจมีความเสี่ยงได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี