เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2561 นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เดินทางไปมอบนโยบายให้ คณะกรรมการ(บอร์ด)และผู้บริหาร การรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) โดยมีนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รมช.คมนาคม และนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง ร่วมหารือ
นายสมคิด กล่าวว่า ได้มีการมอบนโยบายให้การรถไฟฯเร่งปรับปรุงโครงการให้สอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐเนื่องจากยังอยู่ในช่วงการเตรียมงบประมาณปี 2562 โดยเฉพาะการก่อสร้าง
รถไฟเส้นทางหลัก เส้นทางรถไฟทางคู่ และเส้นทางรถไฟไปยังเมืองรองเพื่อเชื่อมต่อภาคการท่องเที่ยว
ส่วนโครงการรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ นั้น ขณะนี้ยังไม่เคยมีนโยบายลดความเร็วลงแต่มีบางหน่วยงานได้มีข้อเสนอแนะว่าควรศึกษาการลดความเร็วเพื่อประหยัดงบประมาณ ซึ่งจากการทำการศึกษาพบว่าการลดงบประมาณได้เพียงเล็กน้อยจะส่งผลเสียมากกว่าผลดีก็ต้องใช้ความเร็วสูงต่อไป
สำหรับการฟื้นฟูกิจการ ทางการรถไฟฯ ยังได้เสนอตัวเลขและแนวทางแผนฟื้นฟู ที่จะมีรายได้มาจาก 2-3 แหล่งใหญ่เช่น การบริหารทรัพย์สิน และการพัฒนาเส้นทางเดินรถไฟ ซึ่งก็มีความเห็นพ้องกับทางกระทรวงการคลังว่า การรถไฟฯมีศักยภาพในการทำแผนฟื้นฟูแต่คงต้องดูแลอย่างใกล้ชิด จึงได้มีการสั่งการให้นายไพรินทร์ชูโชติถาวร รมช.คมนาคม กลับไปปรับปรุงแผนฟื้นฟูและจัดทำแผนการเพิ่มกำลังคนให้สอดคล้องกับการพัฒนาโครงการมากขึ้น
ขณะที่ปัญหาการขาดแคลนบุคลากรของการรถไฟฯนั้นได้ให้ทางคณะกรรมการ การรถไฟฯกลับไปเร่งจัดทำแผนเสนอให้กระทรวงคมนาคมและสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(สคร.) พิจารณา ซึ่งแผนฟื้นฟูของการรถไฟฯจะมีเสนอให้ที่ประชุมคนร.ในนัดการประชุมวาระพิเศษเดือน กุมภาพันธ์นี้ เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือทั้งเรื่องบุคลากรและตัวโครงการ
“ส่วนของการปรับค่าโดยสารของการรถไฟฯก็สามารถทำได้ หากมีการปรับปรุงคุณภาพการให้บริการจนเป็นที่พอใจของประชาชนแล้ว
ด้านนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคมกล่าวว่า สำหรับการปรับขึ้นค่าโดยสารคาดว่าจะเริ่มในปี 2563 เป็นต้นไป หลังจากที่การรถไฟฯได้มีการรับขบวนรถใหม่และปรับปรุงการบริหารแล้ว โดยแนวทางการปรับขึ้นค่าโดยสารใหม่จะมีการคิดค่าแรกเข้า 10 บาท จากเกณฑ์เดิมที่คิดค่าแรกเข้า 2 บาท และค่าโดยสารตามระยะทางจะเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 50 เช่น โครงสร้างค่าโดยสารใหม่ชั้น 3 ระยะทาง 0-100 กิโลเมตร จะอยู่ที่ 0.323 บาทต่อกิโลเมตร จากเดิมอยู่ที่ 0.215 บาทต่อกิโลเมตร ซึ่งแผนดังกล่าวคาดว่าจะทำให้รายได้ของร.ฟ.ท.เพิ่มขึ้นอีก 30%
ส่วนโครงการรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ยังต้องมีการพิจารณาจากผลการศึกษาอีกครั้ง กับทางญี่ปุ่น ซึ่งขณะนี้ได้รับการยืนยันจากนายสมคิด แล้วว่าต้องเป็นรถไฟความเร็วสูงซึ่งความเร็วขั้นต่ำจะอยู่ที่ 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งจะมีการเสนอผลการศึกษาทั้งหมดให้ ครม.ในช่วงปลายปีนี้
ส่วนการมอบนโยบายของรองนายกรัฐมนตรีนั้นได้ย้ำในเรื่องการพัฒนาแผนฟื้นฟูของการรถไฟฯเพื่อเพิ่มรายได้, การเชื่อมโยงเส้นทางรถไฟไปยังเมืองรองส่งเสริมการท่องเที่ยว และโครงการรถไฟเส้นทางพิเศษ เช่น โครงการรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ และโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบินและต้องปรับองค์กรให้สอดคล้องกับธุรกิจการท่องเที่ยว เพราะจะสามารถทำแพ็กเกจร่วมกันได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี