แหล่งข่าวจาก กระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า หลังจากที่ทางกระทรวงคมนาคมได้มีการสั่งการให้ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กลับไปทบทวนการศึกษาความคุ้มค่า และความเสี่ยงในการก่อสร้างโครงการทางพิเศษสายกะทู้-ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต วงเงิน 13,000 ล้านบาทนั้น พบว่าโครงการดังกล่าวมีผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ(EIRR) มากกว่า 12% และต้องเดินหน้าต่อไป คงยกเลิกไม่ได้ เนื่องจากถูกผูกมัดด้วยกิจการภายใต้แผนยุทธศาสตร์การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ.2558-2562 (Project Pipeline) ซึ่งถูกประกาศไว้ในราชกิจจานุเบกษาไปแล้ว
อีกทั้งยังเป็นมติคณะรัฐมนตรี(ครม.)ที่เห็นชอบในหลักการและได้มอบหมายให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.)ไปดำเนินการ แม้ว่าโครงการดังกล่าวจะมีผลตอบแทนทางการเงินที่ไม่สูงมากจึงอาจต้องให้เอกชนรายใหญ่เข้ามาร่วมทุนเพราะรายได้เติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไปแต่สม่ำเสมอในระยะยาว และอาจต้องใส่ข้อเสนอเพิ่มเติมในเอกสารประกวดราคา(TOR) เพื่อจูงใจเอกชนให้เข้ามาร่วมทุนมากขึ้น
ในส่วนของประเด็นค่าก่อสร้างอุโมงค์ลอดภูเขานาคเกิดที่ต้องใช้เงินจำนวนมากทำให้ต้นทุนสูงนั้นทางกระทรวงคมนาคมก็ได้มีการสั่งการให้ไปดูแนวทางในกรณีที่ไม่มีเอกชนสนใจร่วมทุน ซึ่งอาจมีการเสนอให้ทางกรมทางหลวง(ทล.)เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างโดยใช้งบประมาณของภาครัฐแทน
สำหรับโครงการดังกล่าวขณะนี้อยู่ระหว่างเสนอรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม(EIA) ส่วนรูปแบบการก่อสร้างเป็นทางยกระดับ ช่วงกลางเส้นทางมีอุโมงค์ทางลอด รวมระยะทาง 3.98 กิโลเมตร จุดเริ่มต้นถนนพระเมตตา ตำบลป่าตอง อำเภอกะทู้ เป็นทางยกระดับขนาด 4 ช่องจราจรต่อทิศทาง แบ่งเป็นสำหรับรถยนต์ 2 ช่อง และรถจักรยานยนต์ 2 ช่อง แนวสายทางยกระดับข้ามถนนพิศิษฐ์กรณีย์ จนถึงเขานาคเกิด จากนั้นเป็นอุโมงค์ลอดเขานาคเกิด ระยะทาง 1.85 กิโลเมตร ตามแผนจะเปิดให้บริการในปี 2567
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี