นายลือชัย ชัยปริญญา รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย (KTB)เปิดเผยว่าธนาคารและบริษัทพีอีเอ เอ็นคอม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด บริษัทในเครือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และองค์กรพันธมิตร ร่วมกันพัฒนาโครงข่ายการใช้รถยนต์สามล้อไฟฟ้าในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อลดการพึ่งพาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ
ธนาคารมีความมุ่งมั่นในการสนับสนุนนโยบาย National e-Payment เพื่อเสริมสร้างศักยภาพและขับเคลื่อนสังคมไทยทุกภาคส่วนสู่สังคมไร้เงินสด ช่วยลดต้นทุนทางธุรกิจและเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของประเทศ โดยธนาคารได้ขยายบริการทางการเงิน ที่ครบวงจรให้กับโครงการรถยนต์สามล้อไฟฟ้า ด้วยการให้บริการระบบการรับและจ่ายเงินค่าโดยสารผ่านแอพพลิเคชั่นเป๋าตุง กรุงไทย บริการรับชำระค่าชาร์จประจุไฟฟ้า และเตรียมให้บริการชำระค่างวดรถยนต์สามล้อไฟฟ้า ผ่าน Payment Card ซึ่งสามารถตรวจสอบรายการชำระเงินได้ตลอด 24 ชั่วโมง อำนวยความสะดวกแก่สมาชิกโครงการ ไม่ต้องพกเงินสดทั้งคนขับรถและผู้โดยสาร
“คนขับรถสามล้อไฟฟ้าในโครงการนี้เพียงเปิดบัญชีกับธนาคารกรุงไทยเพื่อสร้าง QR Code พร้อมดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นเป๋าตุง กรุงไทย ก็สามารถรับชำระค่าโดยสารได้จากทุกธนาคาร โดยมีบริการแจ้งเตือนเมื่อเงินเข้าบัญชีลดความยุ่งยากในการรับและทอนเงิน ด้านผู้โดยสารชำระเงินด้วยการสแกน QR Code ผ่าน Mobile Application นอกจากนี้ธนาคารยังให้บริการรับชำระค่าชาร์จประจุไฟฟ้า ผ่านระบบหักเงินผ่านบัญชีอัตโนมัติแบบ Real Time เพื่อส่งกระแสไฟฟ้าเข้ารถยนต์ ซึ่งสามารถตรวจสอบข้อมูลการชำระเงินได้อย่างถูกต้อง”
นายลือชัยย้ำว่า ธนาคารพร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมส่งเสริมให้เกิดการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยอย่างแพร่หลาย ปฏิรูปการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มทางเลือกในการใช้พลังงาน ซึ่งส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งลดการพึ่งพาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศอีกด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี