22 ก.พ.61 นายฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลประกอบการไทยเบฟฯ ไตรมาสแรกปีงบประมาณ 61 (ต.ค. - ธ.ค.60) ทำรายได้ 45.6 พันล้านบาท กำไรสุทธิ 3 พันล้านบาท ส่วนธุรกิจเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์มี ยอดขายเติบโต 5.8% ขาดทุนสุทธิลดลง 5% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ส่วนธุรกิจอาหารยอดขายโต 42.3% กำไรสุทธิเพิ่ม 2,080% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งเกิดจากการซื้อกิจการร้าน KFC และกำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อม และค่าตัดจ่าย (EBITDA) เพิ่มขึ้น จาก 8.5% มาเป็น 14.1% ของยอดขาย และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจาก 0.3% เป็น 4.7% ของยอดขาย สำหรับไตรมาสแรกปีงบประมาณ 61
นอกจากนี้ บริษัทฯได้ใช้เงินลงทุน 2 แสนล้านบาท ในการซื้อธุรกิจใหญ่ จำนวน 4 ราย ในช่วงไตรมาสแรก (เดือนตุลาคม - ธันวาคม 60) ตามปีงบประมาณ 2561 ของบริษัทฯ (เริ่มตุลาคม 60 - กันยายน 61) ซึ่งเป็นธุรกิจเครื่องดื่มและอาหารทั้งในและต่างประเทศ รวมมูลค่าการ ทำให้มูลค่ามาร์เก็ตแคปของไทยเบฟฯเพิ่มขึ้นอีกมาก จากปัจจุบันนี้มีมูลค่ามาร์เก็ตแคปอยู่ที่ 500,000 กว่าล้านบาท
สำหรับ 4 ธุรกิจใหญ่ที่เข้าไปซื้อ ประกอบด้วย 1.การเข้าซื้อหุ้น 53.6% ของธุรกิจเบียร์อันดับ 1 ของเวียดนาม “ไซ่ง่อน เบียร์ แอลกอฮอล์ คอร์ปอเรชั่น” หรือ ซาเบโก้ (Sabeco) ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตเบียร์รายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม ด้วยมูลค่ากว่า 156,000 ล้านบาท , 2.การเข้าซื้อหุ้น 75% ของ Grand Royal Group ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ผลิตสุรารายใหญ่ที่สุดของประเทศเมียนมา ด้วยมูลค่าการซื้อกว่า 25,000 ล้านบาท , 3.การเข้าซื้อกิจการร้าน KFC กว่า 252 สาขาในประเทศไทย ด้วยมูลค่ากว่า 11,400 ล้านบาท และ 4.การเข้าซื้อหุ้น 76% ของบริษัท Spice of Asia ที่ดำเนินกิจการร้านอาหารประเภท Hot Pot และร้านอาหารไทย ซึ่งมีจำนวน 10 ร้านค้า ในประเทศไทย ด้วยมูลค่ากว่า 115 ล้านบาท
ส่วนเงินลงทุนที่จะนำมาชำระการซื้อธุรกิจครั้งนี้ มี 2 ทางหลัก คือ 1.การใช้กระแสเงินของบริษัทฯเองที่มีอยู่ประมาณ 30,000 กว่าล้านบาท และ 2.การออกบอนด์หรือหุ้นกู้ ซึ่งตามแผนคาดว่าจะออกปีละ 2 ครั้ง รวม 2 ปี โดยในปีแรกนี้คาดว่าจะออกบอนด์หรือหุ้นกู้ รวมมูลค่า 60,000 ล้านบาท
ขณะที่ผลประกอบการของแต่ละบริษัทฯ ที่ซื้อมาครั้งนี้ พบว่า ซาเบโก มีรายได้รวม 48,000 ล้านบาท กำไร 7,200 ล้านบาท เมื่อสิ้นปี 60 , แกรนด์รอยัล มีรายได้ ต.ค. - ธ.ค.60 ประมาณ 1,822 ล้านบาท กำไร 455 ล้านบาท , เคเอฟซี มีรายได้ ธ.ค.60 เดือนเดียว 600 ล้านบาท ส่วนร้านอาหารบริษัท Spice of Asia รายได้ ช่วง ต.ค. - ธ.ค.60 ประมาณ 37 ล้านบาท กำไรประมาณ 4 ล้านบาท
ทั้งนี้ การเข้าซื้อธุรกิจเบียร์จากซาเบโก้ (Sabeco) ในครั้งนี้ส่งผลให้ไทยเบฟ ก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาดเบียร์ในอาเซียนอย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยส่วนแบ่งตลาดด้านปริมาณรวม 26% จากเดิมไทยเบฟหรือเบียร์ช้างมีเพียง 9% รวมกับของซาเบโก อีก 17% สำหรับส่วนแบ่งตลาดเบียร์ในแง่ปริมาณลิตรในตลาดอาเซียน มีดังนี้เช่น ซาเบโก 17% , ไฮเนเก้น 14% , สิงห์ 13% , คาร์ลสเบิร์ก 12% , ช้าง 9% , ซานมิเกล 9% , ฮาเบโก (เวียดนาม) 7% และอื่นๆ ด้วยปริมาณการบริโภคเบียร์รวมกว่า 9,000 ล้านลิตรต่อปี ในตลาดอาเซียนนี้ โดยมีเวียดนามเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดมากกว่า 4,400 ล้านลิตรต่อปี ซึ่งมีแบรนด์ซาเบโก เป็นผู้นำตลาดด้วยส่วนแบ่งกว่า 41%
“ส่วนที่เมียนมานั้น ตลาดใหญ่คือ สุรา ซึ่งแกรนด์รอยัล มียอดขายมากกว่า 60 ล้านลิตรต่อปี เป็นรายใหญ่ที่เมียนมา ส่วนที่เวียดนามตลลาดใหญ่คือเบียร์ ทำให้เราได้ครองตลาดทั้งสองที่ ซึ่งขณะนี้เรามาถึงช่วงที่ 2 ของวิชั่น 2020 แล้ว เราสร้างการเติบโตโดยเฉพาะอาเซียน เป้าหมายใหญ่คือ เวียดนาม ประชากรกว่า 90 ล้านคน จีดีพีโต 7% และ เมียนมาประชากรกว่า 50 ล้านคน ทั้งสองประเทศใกล้เคียงกับไทยมาก ทั้งเศรษฐกิจ สังคม ประชากรรุ่นใหม่มีมาก และมีกำลังซื้อ” นายฐาปน กล่าว
ทั้งนี้ การเข้าซื้อกิจการทั้งซาเบโกกับแกรนด์รอยัลครั้งนี้ ทำให้สัดส่วนรายได้ของกลุ่มแอลกอฮอล์ของไทยเบฟ ขยับขึ้นไปเป็น 78% แล้ว จากเดิมอยู่ที่ 55% ส่วนกลุ่มนอนแอลกอฮอล์ จากเดิมสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 45% ลดลงเหลือ 22% จากวิชั่น 2020 (ปี 2563) มีเป้าหมายว่า สัดส่วนรายได้กลุ่มแอลกอฮอล์และนอนแอลกอฮอล์จะเท่ากันที่ 50% ทำให้กลุ่มนอนแอลกอฮอล์ต้องพยายามหาทางที่จะผลักดันรายได้ให้เป้นไปตามเป้าหมาย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี