นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.เมืองไทย ลิสซิ่ง (MTLS) เปิดเผยว่า กรณีการยกร่าง พ.ร.บ.การกำกับดูแลผู้ให้บริการทางการเงิน และให้มีหน่วยงานที่จัดตั้งขึ้นใหม่มากำกับดูแลโดยเฉพาะ เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคไม่ให้ถูกเอาเปรียบจากการคิดดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมที่สูงเกินไป และดูแลให้การให้บริการทางการเงินมีคุณภาพ และเป็นธรรมแก่ประชาชนนั้น แนวคิดดังกล่าวได้รับการตอบรับจากผู้ประกอบการทุกราย
ทั้งนี้ที่ผ่านมามีข้อร้องเรียนจากทางการให้ผู้ประกอบการสินเชื่อห้องแถว ซึ่งมีไม่น้อยกว่า 500 รายทั่วประเทศ และมีรวมกันไม่น้อยกว่า 5,000 สาขา รวมทั้งมีฐานลูกค้าไม่น้อยกว่า 3 ล้านคน มีวงเงินหมุนเวียนไม่น้อยกว่า 1 แสนล้านบาท โดยมีผู้ประกอบการบางแห่งคิดดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมสูงเกินไป สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน จึงเป็นเหตุผลที่ทางการต้องเข้ามาดูแล ด้วยการให้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินเชื่อ ทั้งจากกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย เช่น สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์, สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ, สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ กำหนดอัตราดอกเบี้ย และเงื่อนไขในการกู้ยืมตั้งแต่ 28-36%
อย่างไรก็ตาม เมื่อทางการเปิดให้มีการขอจดทะเบียนสินเชื่อประเภทต่างๆแล้ว แต่เงื่อนไขที่ทางการกำหนดก็ยังไม่ครอบคลุมถึงผู้ประกอบการอีกจำนวนมาก รวมทั้งยังไม่ตอบสนองความต้องการของประชาชนที่ต้องการใช้เงิน เช่น ห้ามผู้ประกอบการทำธุรกิจข้ามจังหวัด,ห้ามเรียกหลักประกันจากลูกค้า, ห้ามระดมทุนจากมหาชน, ห้ามใช้รถจักรยานยนต์ รถยนต์ รถเพื่อการเกษตรเป็นหลักประกัน, การเรียกดอกเบี้ยและค่าบริการไม่ได้แยกระหว่างลูกค้าที่มีประวัติการชำระดีและลูกค้าค้างชำระ แต่คิดแบบเหมารวม
“มาตรการที่ประกาศออกมาไม่ได้เป็นประโยชน์กับประชาชน จึงมีสินเชื่อห้องแถวอีกกลุ่มหนึ่งที่ยังคงประกอบธุรกิจให้กู้ยืม โดยผู้ที่ทำธุรกิจก็มีทั้งบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และบริษัทที่เป็นลูกค้าธนาคารพาณิชย์ โดยคิดดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมน้อยกว่า หรือเท่ากับที่ทางการกำหนดคือ 23-36% เมื่อประชาชนอยากได้สินเชื่อ จึงทำให้ผู้ประกอบการเหล่านั้นทำธุรกิจได้โดยไม่มีใบอนุญาต” นายชูชาติ กล่าว
ทั้งนี้ การที่ทางการมีความคิดที่จะเข้ามากำกับดูแลธุรกิจสินเชื่อนอนแบงก์ ทั้งที่มีใบอนุญาตอยู่แล้วและที่ยังไม่มีใบอนุญาตให้เข้าสู่ระบบ โดยการให้บริการที่ไม่เอาเปรียบลูกค้า จึงเป็นสิ่งที่ถูกต้องและตรงกับความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง อีกทั้งผู้ประกอบการเองก็อยากให้มีใครมากำกับดูแล จะได้ปฏิบัติเหมือนกันทั่วประเทศ
อย่างไรก็ตาม ทางการควรเพิ่มบทบาทอย่างน้อย 4 เรื่อง คือ 1.กำกับ-เข้ามากำหนดกฎเกณฑ์กติกาให้ชัดเจน 2.ดูแล-ให้ผู้ประกอบการทุกรายปฏิบัติอยู่ภายใต้กรอบเดียวกัน 3.แก้ไข-เงื่อนไขหรือกฎเกณฑ์ที่ทางการกำกับที่อาจไม่สอดคล้องกับวิถีชีวิตชาวบ้าน 4.ควบคุม-เข้ามาควบคุมดูแลให้ทุกฝ่ายปฏิบัติเหมือนกันเพื่อประโยชน์ผู้บริโภค
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี