เรกูเลเตอร์ตรึงค่าเอฟทีงวดพ.ค.-ส.ค.61 ส่งซิกอั้นถึงสิ้นปีช่วยปชช.เซฟค่าไฟ
9 มี.ค.61 นายวีระพล จิรประดิษฐกุล กรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) ในฐานะโฆษก กกพ. หรือเรกูเลเตอร์ กล่าวว่า ช่วงเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2561 ค่าเชื้อเพลิงทุกชนิด ได้แก่ ก๊าซธรรมชาติ น้ำมันเตา และถ่านหิน มีแนวโน้มสูงขึ้น ดังนั้น กกพ.ได้มีมติตรึงค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ(เอฟที) ประจำงวดพฤษภาคม-สิงหาคม 2561 ไว้ที่ -15.90 สตางค์ต่อหน่วย โดยการใช้เงินสะสมจากราคาส่วนต่างค่าไฟฟ้า วงเงิน 11,827 ล้านบาท ซึ่งนำมาใช้ตรึง 5,291 ล้านบาท ทำให้เหลือเงิน 6,536 ล้านบาท
นายวีระพล กล่าวอีกว่า ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อราคาเชื้อเพลิงและการผลิตไฟฟ้า มาจากอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น จากประมาณการที่ใช้คำนวณค่าเอฟทีในช่วงมกราคม-เมษายน 2561 จาก 33.32 บาทต่อเหรียญสหรัฐ เป็น 32.05 บาทต่อเหรียญสหรัฐ รวมถึงความต้องการพลังงานไฟฟ้าในช่วงเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2561 อยู่ที่ 67,334 ล้านหน่วย ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดือนมกราคม-เมษายน 2561 อยู่ที่ 5,136 ล้านหน่วย คิดเป็น 8.26% และสัดส่วนการใช้เชื้อเพลิงการผลิตไฟฟ้าในช่วงเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2561 ยังคงใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงหลัก 60.50% รองลงมาเป็นรับซื้อไฟฟ้าจากลาว 13.23% ลิกไนต์ 8.80% และถ่านหินนำเข้า 8.69%
“หาก กกพ.ไม่นำเงินมาอุดหนุน ค่าเอฟทีงวดนี้จะขึ้นอีก 8.61 สตางค์ต่อหน่วย คือ เอฟทีจะอยู่ที่ -7.29 สตางค์ต่อหน่วย จนเป็นภาระต่อประชาชนได้ โดยผลจากการตรึงเอฟทีไว้ที่ -15.90 สตางค์ต่อหน่วย เมื่อรวมค่าไฟฟ้าฐาน 3.76 บาทต่อหน่วย จะทำให้ประชาชนต้องจ่ายค่าไฟงวดใหม่เท่าเดิม คือ 3.5966 บาทต่อหน่วยต่อไป” นายวีระพล กล่าว
ทั้งนี้ คาดว่าไฟฟ้างวดถัดไป คือ กันยายน-ธันวาคม 2561 แนวโน้มค่าเอฟทีจะปรับขึ้นอีก จากราคาก๊าซที่เป็นตัวแปรสำคัญ ดังนั้นในเบื้องต้น กกพ.มีแผนตรึงราคาไว้ที่ -15.90 สตางค์ต่อหน่วยต่อไป โดยจะใช้วิธีแบ่งเงินสะสมฯส่วนที่เหลือคือ 4,871 ล้านบาท มาตรึง และจะนำเงินอีก 1,665 ล้านบาท ไปใช้เอฟทีงวดปี 2462
นายวีระพล กล่าวว่า แนวโน้มราคาเชื้อเพลิง คาดว่าราคาก๊าซธรรมชาติรวมค่าผ่านท่อ อยู่ที่ 262.02 บาทต่อล้านบีทียู ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากงวดที่ผ่านมา 12.51 บาทต่อล้านบีทียู ราคาน้ำมันเตา 18.06 บาทต่อลิตร ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.89 บาทต่อลิตร ราคาน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 22.30 บาทต่อลิตร ลดลง 0.06 บาทต่อลิตร ราคาถ่านหินนำเข้าเฉลี่ยของโรงไฟฟ้าเอกชนอยู่ที่ 2,460.36 บาทต่อตัน ปรับเพิ่มขึ้น 32.87 บาทต่อตัน และราคาลิกไนต์ กฟผ. อยู่ที่ 693 บาทต่อตัน ไม่เปลี่ยนแปลง
ทั้งนี้ จากมติ กกพ.ดังกล่าวข้างต้น สำนักงาน กกพ. จะเผยแพร่รายละเอียดทั้งหมดผ่านทาง www.erc.or.th เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ตั้งแต่วันที่ 9-23 มีนาคม 2561 ก่อนที่จะนำผลการรับฟังความคิดเห็นมาพิจารณา และให้การไฟฟ้าประกาศเรียกเก็บค่าไฟฟ้าตามสูตรการปรับค่าเอฟทีสำหรับเรียกเก็บในรอบดังกล่าวอย่างเป็นทางการต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี