22 มี.ค.61 ที่กระทรวงพาณิชย์(พณ.) นายวิเชียร ชวลิต ที่ปรึกษา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวระหว่างเป็นประธานการเปิดกิจกรรมยกระดับสหกรณ์ไทย-สร้างค้าปลีกไทยเข้มแข็งว่า นับเป็นโอกาสอันดีที่จะได้สร้างโอกาสการเติบโตที่มั่นคงให้กับธุรกิจที่เป็นฐานรากทางเศรษฐกิจของประเทศไทยอย่างธุรกิจค้าส่งค้าปลีก หรือร้านโชว์ห่วย และการรวมกลุ่มของคนในชุมชนภายใต้ชื่อ 'สหกรณ์ร้านค้า' จากข้อมูลของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ปี 2559 พบว่า เกือบครึ่งของธุรกิจเอสเอ็มอีในประเทศประกอบธุรกิจประเภทค้าส่งค้าปลีกคิดเป็นร้อยละ 41.67 ของเอสเอ็มอีทั้งหมด ซึ่งการเติบโตของธุรกิจประเภทนี้จะเป็นดัชนีที่สะท้อนให้เห็นถึงความอยู่ดีกินดีของประชาชน เกี่ยวข้องไปถึงธุรกิจและความเป็นอยู่ของประชาชนในประเทศด้วย
นายชวลิต กล่าวว่า พณ.ดำเนินการส่งเสริมธุรกิจร้านค้าส่งค้าปลีกไทยในการจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค ซึ่งเป็นสินค้าพื้นฐาน เน้นให้มีการบริหารจัดการที่ดีตามมาตรฐานคุณภาพ และจัดหาสินค้าได้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค ลดการสั่งสินค้ามากเกินความจำเป็นซึ่งก่อให้เกิดต้นทุนที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการนำเครื่องมือหรือเทคโนโลยีต่างๆ มาช่วยค้าขายได้อย่างมีประสิทธิภาพลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็น ซึ่งเป็นการนำเสนอให้ผู้ประกอบธุรกิจได้เห็นถึงสภาวะการเปลี่ยนแปลงในภาคธุรกิจระดับโลกด้วยเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อช่วยการบริหารจัดการและสร้างการแข่งขัน หากร้านค้าไม่เกิดการตื่นตัวหรือปรับตัวก็จะทำให้จากโอกาสที่จะเกิดขึ้นก็อาจกลายเป็นวิกฤตได้
"ในวันพรุ่งนี้(23 มี.ค.61) ตนจะลงพื้นที่ดูงานที่ศูนย์มิตรแท้โชห่วย บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด ซึ่งเป็นร้านค้าส่งค้าปลีกขนาดใหญ่ที่ดำเนินธุรกิจแบบครบวงจรมีการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาช่วยบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ ทำให้เกิดมุมมองใหม่ด้านการทำธุรกิจที่เป็นมืออาชีพ อาทิ เรียนรู้การบริหารจัดการร้านค้า ทั้งสินค้าประเภทอุปโภคบริโภค และอาหารสดที่ต้องใช้ความชำนาญในการบริหารสินค้าคงคลังเพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสียต้นทุน การบริการจัดการด้านโลจิสติกส์ และด้านชีวอนามัย เป็นต้น การดูงานในครั้งนี้เกิดจากเสียงสะท้อนที่แท้จริงจากผู้เข้าร่วมโครงการที่ผ่านมาที่ต้องการเรียนรู้ถึงวิธีการดำเนินธุรกิจจากร้านค้าส่งค้าปลีกขนาดใหญ่ที่เป็นบริษัทชั้นนำเพื่อเก็บเกี่ยวความรู้สำหรับนำมาปรับใช้กับร้านค้าของตนเองให้พร้อมที่จะเติบโตไปเป็นมืออาชีพได้ในอนาคต" นายชวลิต กล่าว
สำหรับ โครงการดังกล่าวจะติดตามการปรับตัวของธุรกิจที่เข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง และมีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำ และคำปรึกษาตลอดโครงการ ภายใต้เกณฑ์มาตรฐานคุณภาพทั้ง 8 ด้าน คือ 1. การรวมกลุ่มและวางแผนเชิง กลยุทธ์ 2.ลูกค้าและตลาด 3.สารสนเทศ และการวิเคราะห์ 4.ทรัพยากรบุคคล 5.การจัดการกระบวนการทางธุรกิจ และโลจิสติกส์ 6.การจัดร้านค้า และจัดวางสินค้า 7.อนามัย และความปลอดภัยในสถานประกอบการค้าส่งค้าปลีก และ 8.ผลลัพธ์ทางธุรกิจ โดยจะดำเนินการครอบคลุมทั้ง 4 ภูมิภาค กระทรวงได้ตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะมีสหกรณ์ร้านค้า และร้านค้าส่งค้าปลีก ได้รับการพัฒนาสู่เกณฑ์มาตรฐานคุณภาพเป็นต้นแบบจำนวนไม่น้อยกว่า 35 ร้านค้า เพื่อเป็นแบบอย่างให้กับร้านค้าอื่นก่อนขยายผลการส่งเสริมพัฒนาต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี