แหล่งข่าวจาก กระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการรถไฟไทย-จีน ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา วงเงิน 179,000 ล้านบาท ว่า ขณะนี้ทางรัฐบาลจีนได้ส่งหนังสือแจ้งมาว่า จะมอบหมายให้บริษัทรัฐวิสาหกิจจีนหรือ CRRC Corporation Limited เป็นผู้ดำเนินการสัญญาจัดซื้องานระบบรถไฟไทย-จีน สัญญาที่ 2.3 ซึ่งเป็นงานระบบราง ระบบไฟฟ้า และเครื่องกล รวมทั้งจัดหาขบวนรถไฟ และจัดฝึกอบรมบุคลากร มูลค่าวงเงินตามสัญญา 54,000 ล้านบาท โดยไม่ต้องทำการเปิดประมูล เนื่องจากเป็นโครงการระหว่างรัฐบาลไทย-จีน
“แต่ในส่วนตัวเลขราคาสุดท้ายจะต้องต่อรองกับฝ่ายจีนอีกครั้ง และหลังจากที่หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วได้ข้อสรุปร่วมกันว่าจะใช้เงินกู้ในประเทศ เนื่องจากเป็นวงเงินที่ไม่มากประกอบกับอัตราดอกเบี้ยเงินบาทที่ขณะนี้ต่ำมาก หรือปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 0.25%-0.50% ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยที่น่าสนใจกว่าดอกเบี้ยของธนาคารจีน และธนาคารโลก(เวิลด์แบงก์) และการใช้เงินกู้ในประเทศจะทำให้ดอกเบี้ยเงินฝากในประเทศเพิ่มขึ้นด้วยทำให้คนไทยยังได้รับประโยชน์” แหล่งข่าวกล่าว
ส่วนของความคืบหน้าแบบการก่อสร้างตอนที่ 2 ช่วงปากช่อง-ขนานจิตร ระยะทาง 11 กิโลเมตรนั้น ขณะนี้ทางฝ่ายจีนส่งแบบมาแล้ว คาดว่าจะเริ่มเข้าสู่ขั้นตอนการประกวดราคาภายในช่วงปลายเดือน เมษายนนี้ ขณะที่ความคืบหน้าการถอดแบบตอนที่ 2 หลังจากที่จีนส่งมานั้นคาดว่าจะมีมูลค่าการก่อสร้างอยู่ที่ประมาณ 5,000 ล้านบาท โดยทางการรถไฟฯได้ส่งแบบกลับไปให้ฝ่ายจีนจัดทำข้อมูลเพิ่มเติมรายละเอียดเกี่ยวกับการก่อสร้างแล้ว คาดว่าฝ่ายจีนจะส่งแบบกลับมาอีกครั้งภายในสัปดาห์หน้าเพื่อให้การรถไฟฯพิจารณาก่อนประชุมร่วมกันในเดือน เมษายนนี้
แหล่งข่าว กล่าวอีกว่า ส่วนการประชุมคณะทำงานรถไฟไทย-จีนครั้งต่อไปจะจัดขึ้นในประเทศไทยช่วงปลายเดือน เมษายนนี้ ซึ่งจะมีการเร่งรัดแบบก่อสร้างตอนที่ 3 แก่งคอย-นครราชสีมา ระยะทาง 119.5 กิโลเมตร และตอนที่ 4 บางซื่อ-แก่งคอย ระยะทาง 119 กิโลเมตร รวมถึงจะมีการหารือกันในรายละเอียดสัญญาที่ 2.3 ว่าจะมีแนวทางดำเนินการต่อไปอย่างไร
ด้าน นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้มีเอกชนของจีนมาหารือ คือ บริษัท เสี่ยวมี่ ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ อันดับ 3 ของจีน และบริษัท คิงส์ซอฟท์ ผู้ดำเนินธุรกิจโปรเซสเซอร์ และที่ผ่านมาไปลงทุนในอินโดนีเซียและอินเดีย จึงเข้ามาลงทุนใช้ไทยเป็นศูนย์กลางเพื่อแข่งขันกับไมโครซอฟท์ให้ได้ในราคาถูกกว่า ดังนั้นไทยต้องเตรียมพัฒนาบุคลากรรองรับความต้องการของภาคเอกชนต่างชาติ
มีรายงานแจ้งว่า สำหรับบริษัทคิงส์ซอฟท์ และเสี่ยวมี่ สนใจเข้ามาลงทุนในโครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี