พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในวันที่ 4 เมษายน 2561 จะเรียกผู้บริหาร กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) และฝ่ายบริหารบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) หรือ TOT มาชี้แจงกรณีส่งมอบงานช้า และขอขยายระยะเวลาการส่งมอบงานออกไป ในโครงการจัดให้มีสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ และบริการอินเตอร์เนตความเร็วสูงในพื้นที่ชายขอบ หมู่บ้านในพื่นที่ชายขอบ (Zone C+) กลุ่มที่ 1 (ภาคเหนือ1) ส่วนที่ 2 การจัดให้มีสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Mobile Service)
ทั้งนี้ ทีโอทีจะต้องมาชี้แจงถึงปัญหาอุปสรรค ในการส่งมอบงานล่าช้าให้รับทราบ เนื่องจากผู้ให้บริการรายอื่น (บริษัท
ทรู อินเทอร์เน็ต คอร์ปอเรชั่น จำกัด)สามารถส่งมอบงานได้ตามกำหนดเวลา ซึ่งหากไม่สามารถส่งมอบงานได้ตามเงื่อนไขที่กำหนด สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรท้ศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) มีสัญญาแจ้งปรับต่อไป
ด้าน นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. กล่าวว่า สัญญาบริการจัดให้มีสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ และบริการอินเตอร์เนตความเร็วสูงในพื้นที่ชายขอบ หมู่บ้านพื้นที่ชายขอบ (Zone C+) ส่วนที่ 1 การจัดให้มีบริการอินเตอร์เนตความเร็วสูง Broadband Internet Service) ตามสัญญาเลขที่ 0002/2560 และเลขที่ 0003/2560 ครบกำหนดส่งมอบงาน
งวดที่ 1 แล้ว แต่ทีโอที ยังไม่สามารถดำเนินงานและส่งมอบบริการได้ภายในกำหนดที่จะต้องเปิดให้บริการในพื้นที่ 15% ของพื้นที่หมู่บ้านเป้าหมาย หรือภายในวันที่ 27 มีนาคม 2561 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ กสทช.ขอให้เร่งดำเนินงานให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และสำนักงานจะมีการแจ้งปรับตามสัญญาข้อ 19 คือการบังคับค่าปรับหรือค่าเสียหายซึ่งเกิดจากผู้ให้บริการตามสัญญานี้ผู้ให้บริการมีสิทธิ์ที่จะหักเอาจากจำนวนเงินค่าบริการงวดใดๆ หรือบังคับจากหลักประกันการปฏิบัติตามสัญญา หรือหลักเงินประกันล่วงหน้า นับตั้งแต่วันถัดจากวันครบกำหนดส่งมอบจนถึงวันที่ส่งมอบงาน
อย่างไรก็ตาม สำหรับค่าปรับ ทีโอทีจะต้องถูกปรับเป็นรายวันในอัตราร้อยละ 0.20 ของมูลค่าบริการในแต่ละงวด นับตั้งแต่วันครบกำหนดส่งมอบ โดยคิดค่าปรับรวมสัญญาการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ และบริการบรอดแบนด์อินเตอร์เนต รวมทุกสัญญาคิดเป็นเงินราว 9 แสนบาทต่อวัน
สำหรับโครงการติดตั้งใน 3,920 หมู่บ้าน จะครอบคลุม 100% ในพื้นที่เป้าหมายทั้งหมดภายในเดือน สิงหาคม 2561 ซึ่งจะทำให้มีจุดเชื่อมต่อบริการอินเตอร์เนตความเร็วสูงสาธารณะหมู่บ้านละ 1 จุด รวม 3,149 จุดทั่วประเทศ และศูนย์ USO Net ภายในโรงเรียน จำนวน 763 แห่ง เป็นแหล่งการเรียนรู้ของโรงเรียนและชุมชน พร้อมผู้ดูแลประจำศูนย์ และให้บริการความเร็วสูงไม่ต่ำกว่า 30 Mbps. ในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ฟรี 5 ปี ทำให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับประโยชน์กว่า 775,027 ครัวเรือน
สำหรับส่วนที่ 1 ซึ่งบริษัท ทรู อินเทอร์เน็ต คอร์ปอเรชั่น จำกัด เป็นผู้รับผิดชอบหลังชนะการประกวดราคาในวงเงิน 2,812,014,000 บาท นั้น ตามสัญญาบริษัท ทรู อินเทอร์เน็ตฯ จะต้องติดตั้งจุดให้บริการไวไฟ 802 หมู่บ้าน ขณะนี้ติดตั้งแล้ว 567 หมู่บ้าน และอาคารศูนย์ USO Net ในโรงเรียนจำนวน 206 แห่งดำเนินการไปแล้ว 105 แห่ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี