ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 3 เมษายน ภายหลังจากกระทรวงการคลังได้เสนอร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... เพื่อรองรับระบบภาษีและเอกสารธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงการพื้นฐานระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ (National e-Payment Master Plan) หรือการทำธุรกรรมไร้เงินสด โดยได้เปิดรับฟังความคิดเห็นประชาชนตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคม – 5 กันยายน 2560 ที่ผ่านมา ก่อนมีการนำเสนอให้คณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อประกอบการตรวจพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าว
โดยล่าสุดคณะกรรมการกฤษฎีกา คณะที่ 12 ได้ตรวจพิจารณาและทำการปรับปรุงร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว กรมสรรพากร จึงได้เปิดให้หน่วยงานภาครัฐ เอกชน และประชาชนทั่วไป ร่วมแสดงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่อร่างกฎหมาย ในระหว่างวันที่ 1 เมษายน 2561 ถึงวันที่ 15 เมษายน 2561 ผ่านเว็บไซด์ http://www.rd.go.th/publish/27837.0.html
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับสาระสำคัญของร่างกฎหมายฉบับดังกล่าว คือ การกำหนดให้ธนาคารหรือสถาบันการเงิน และผู้ให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ ต้องส่งข้อมูลของบุคคลที่มีธุรกรรมเป็นลักษณะพิเศษ ตามเงื่อนไข 1 ใน 2 ข้อ ประกอบด้วยว่า 1.มีการฝากหรือรับโอนเงินรวมกันปีละ 3,000 ครั้ง และ 2.มีการฝากหรือรับโอนเงินรวมกันปีละ 200 ครั้ง และยอดรวม 2,000,000 บาทขึ้นไป ให้กับกรมสรรพากรภายในเดือนมีนาคมของทุกปี
โดยมีการตั้งข้อสังเกตเบื้องต้นว่า จากเงื่อนไขดังกล่าวอาจส่งผลให้ร้านค้าที่รับชำระเงินผ่านระบบ QR โค้ด และกลุ่มผู้ขายของออนไลน์ที่มียอดขายสูง ก็อาจถูกสถาบันการเงินส่งข้อมูลให้กับกรมสรรพากรเพื่อตรวจสอบภาษีด้วย อย่างไรก็ตาม ยังต้องรอดูอีกครั้งว่าภายหลังจากเสร็จสิ้นการรับฟังความคิดเห็นในวันที่ 15 เมษายนนี้ จะมีการปรับแก้เนื้อหาในส่วนดังกล่าวอีกหรือไม่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี