สนข.เร่งพัฒนาระบบ EMV เตรียมใช้‘ตั๋วร่วม’1ต.ค.นี้
3 เม.ย.61 นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม ว่า ในที่ประชุมมีมติเห็นชอบในหลักการให้นำระบบเทคโนโลยีบัตร EMV (Euro/ MasterCard และ Visa) หรือระบบบัตรเครดิตดิจิทัล ที่เป็นสากลมีใช้กันทั่วโลกมาใช้ร่วมในระบบตั๋วร่วม
ทั้งนี้ การนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้จะต้องมีบางส่วนที่ต้องดำเนินการ เช่น การออกแบบระบบ และการปรับปรุงเครื่องอ่านบัตรให้สามารถอ่านบัตรได้ ทั้งบัตรเดบิต บัตรเติมเงิน และบัตร EMV จากนั้นจะนำเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) เห็นชอบต่อไป ซึ่งยังได้มอบหมายให้การทางรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) ไปดำเนินการตามขั้นตอนและกฎหมาย
นายชัยวัฒน์ กล่าวด้วยว่า การนำเทคโนโลยีบัตร EMV มาใช้กับระบบตั๋วร่วมจะทำช่วยประหยัดงบประมาณลงทุนลงได้ถึง 50% จาก 4,000 ล้านบาท เหลือแค่ 2,000 ล้านบาท เนื่องจากไม่ต้องมีเครื่องจำหน่ายตั๋วแล้ว และในปัจจุบันการใช้บัตรเดบิต บัตรเติมเงิน บัตรแมงมุมเดิม ที่มีอยู่แล้วจำนวน 200,000 ใบ โดยจะมีการนำมาใช้จำหน่ายให้กับกลุ่มเป้าหมายเฉพาะจะสามารถใช้ในการเดินทางระบบขนส่งสาธารณะนำร่องใช้กับรถโดยสารประจำทาง(รถเมล์) ขสมก. ซึ่งจะมีการเร่งติดระบบ E-Ticket ให้ครบ 2,600 คัน ,รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ,รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน และรถไฟฟ้าสายสีม่วง ในวันที่ 1 ต.ค.นี้
อย่างไรก็ตามในส่วนของเทคโนโลยีบัตร EMV จะนำใช้ได้ในเดือน ธ.ค.2562 สำหรับการเรียกเก็บเงินของบัตร EMVก็จะเหมือนกับบัตรเครดิตทั่วไป ที่เรียกเก็บตามรอบบัญชีเป็นรายเดือน สำหรับประเทศไทยมีการออกบัตรเดบิต 50 ล้านใบ และบัตรเครดิต 20 ล้านใบ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี