เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2561 นางสาวกัณญภัค ตันติพิพัฒนพงศ์ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) แถลงตัวเลขการส่งออกเดือนกุมภาพันธ์ 2561 ที่ สรท.
นางสาวกัณญภัคกล่าวว่า การส่งออกเดือนกุมภาพันธ์ มีมูลค่า 20,365 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 10.3% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตามการส่งออกในรูปเงินบาทอยู่ที่ 643,706 ล้านบาท หดตัว 0.6% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อน
“หดตัวของรายได้จากการส่งออกในรูปของเงินบาท ขณะเดียวกันมีการขยายตัวในรูปของเงินเหรียญสหรัฐเกิดจากการแข็งค่าของเงินบาทอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้รายได้ในรูปเงินบาทของผู้ประกอบการได้รับน้อยลงกว่าที่ควร และอาจส่งผลต่อความสามารถในการแข่งขันได้ในระยะยาว ซึ่งเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นมีผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าไทย โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มเกษตรและอาหาร เพราะที่ประมาณการกันว่า ยอดส่งออกไทยปีนี้จะโตได้ที่ 6% นั้น มาจากการที่อุตสาหกรรมอาหารขยายตัว 5% แต่หากปีนี้การส่งออกอุตสาหกรรมอาหารไม่มีการขยายตัวเลยก็อาจทำให้ยอดการส่งออกปีนี้ลดลงเหลือแค่ 5% เนื่องจากสินค้าเกษตรและอาหารเป็นโครงสร้างของการส่งออกสินค้าไทย
นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานสภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) กล่าวว่า ยอดส่งออกของไทยในเดือนมีนาคมนี้ต้องมาลุ้นอีกครั้ง เนื่องจากจะเป็นจุดเริ่มความท้าทายที่ยอดส่งออกอาจโตไม่ถึง 2 หลัก เพราะมีเรื่องของสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกา ที่จะมีผลต่อการค้าและการส่งออกของไทยในช่วงไตรมาส 3
ในวันเดียวกัน นายเจน นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบันหรือ กกร. ว่า ที่ประชุม กกร.ปรับเพิ่มประมาณการการส่งออกและอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยปี 2561 ใหม่ โดยประเมินว่าการส่งออกอาจขยายตัวร้อยละ 5.0-8.0 จากเดิมเมื่อเดือนมกราคม 2561 ประเมินว่าจะโตร้อยละ 3.5-6.0
“เศรษฐกิจไทยยังมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยแรงหนุนจากภาวะเศรษฐกิจโลก ส่งผลให้การส่งออกของไทยเติบโตมากขึ้น รวมทั้งการท่องเที่ยวขยายตัวเช่นเดียวกัน ซึ่งหากการส่งออกปีนี้ออกมาดีต่อเนื่อง ทั้งปีก็น่าจะขยายตัวได้ใกล้เคียงระดับ 8% เพราะขณะนี้ประเมินว่าการส่งออกขยายตัวได้เกินขั้นต่ำที่คาดการณ์ว่าจะโต 5% ไปแล้ว ดังนั้นจึงมั่นใจว่าการส่งออกปีนี้จะขยายตัวได้ไม่ต่ำกว่า 5% แน่นอน แต่จะถึง 8% หรือไม่คงต้องติดตาม
ทั้งนี้ กกร. จะติดตามสถานการณ์เพื่อประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจไทยอย่างใกล้ชิด โดยคาดว่าข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะไม่ขยายตัวถึงขั้นเป็นสงครามทางการค้า หากไทยจะไปเจรจากับสหรัฐก็จะต้องเตรียมประเด็นที่เข้าไปหารือเพื่อให้ไทยได้รับผลกระทบ
น้อยที่สุด โดยขณะนี้ การขึ้นภาษีสินค้าของสหรัฐจำกัดเพียงกลุ่มเหล็กและอะลูมิเนียม ซึ่งหากผู้ส่งออกเหล็กได้รับผลกระทบก็ต้องหาตลาดใหม่มารองรับ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี