nn ปรบมือให้ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และ นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. ...ที่กล้าทำเรื่องเสนอ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.มีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และคณะรัฐมนตรี เพื่อให้พิจารณาตัดสินใจแนวทางการยืดชำระค่างวดใบอนุญาตให้ผู้ประกอบการโทรคมนาคม คลื่น 900 MHz ทั้ง บริษัท ทรูมูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด หรือ TUC (Truemove H Universal Communication) และ บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เวส เนทเวิร์ต หรือ AWN (Advance Wireless Network) โดยขอผ่อนผันการชำระค่างวดเงินประมูลคลื่นความถี่จากเดิม ต้องจ่ายงวดที่ 4 เป็นงวดสุดท้ายในปี 2563 เป็นทยอยจ่ายออกไปอีก 5 งวด จนถึงปี 2567…ด้วยเชื่อมั่นในเหตุผลที่ว่าจำเป็นต้อง..คำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติ และประชาชนเป็นสำคัญ…
รายละเอียดที่คณะทำงานของสำนักงาน กสทช. เสนอ มีสาระสำคัญ ดังต่อไปนี้ หาก คสช.มีคำสั่งให้ขยายระยะเวลาการชำระเงินค่าประมูลออกไปจะเป็นผลดีกับอุตสาหกรรมโทรคมนาคมทั้งระบบและเศรษฐกิจในประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืน กล่าวคือ หากนำคลื่น 1800 MHz มาเปิดประมูล จะทำให้ประเทศไทย สามารถใช้ประโยชน์จากคลื่นความถี่ เพิ่มขึ้นอีก 90 MHz เพื่อรองรับเทคโนโลยี 5 จี, Internet of Things จะเป็นแรงผลักดันให้เกิดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจรวดเร็วยิ่งขึ้น…
และหาก คสช. มีคำสั่งให้ขยายระยะเวลาการชำระเงินออกไปอีก 5 งวด จนถึงปี 2567 รัฐบาลจะไม่เกิดความเสียหายแต่อย่างใด เนื่องจาก กสทช.กำหนดเงื่อนไขให้จ่ายดอกเบี้ยให้กับรัฐตามอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย ร้อยละ 1.5 ได้ดอกเบี้ยจาก AWN 1,787.2 ล้านบาท ได้ดอกเบี้ยจาก TUC 1,806.6 ล้านบาท จะทำให้รัฐมีรายได้เพิ่มอีก 3,593.76 ล้านบาท และผลจากการขยายระยะเวลาออกไปนั้น จะทำให้วงเงินกู้ของบริษัท TUC และ AWN ได้รับการขยายออกไปด้วย เปิดโอกาสให้บริษัทเข้าร่วมประมูลกับ กสทช.ได้อีก ความเป็นไปได้สูงว่าบริษัทจะกลับมาเข้าร่วมแข่งขันประมูล เนื่องจากวงเงินกู้จากสถาบันการเงินได้รับการขยายออกไปด้วยเช่นกันและบริษัทยังมีโอกาสเฉลี่ยต้นทุน กสทช. เปิดประมูลคลื่น มี 3 บริษัท เข้าร่วม ราคาประมูลย่อมเพิ่มขึ้นเนื่องจากเกิดการแข่งขันกัน รัฐบาลจะมีรายได้จากค่าประมูลเพิ่มขึ้น จำนวนคลื่นมีมากขึ้น ถ้าประมูลได้ทั้ง 3 ใบอนุญาต รัฐจะได้เงิน 120,477.72 ล้านบาท..ประมูล 2 ใบอนุญาต รัฐมีรายได้ 80,318.48 ล้านบาท...ประมูล 1 ใบอนุญาต รัฐมีรายได้ 40,159.24 ล้านบาท รองรับกับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่งคลื่น 5จีและ Internet of Things ผลประโยชน์ที่ประเทศจะได้ย่อมมีสูงกว่าการไม่ขยายระยะเวลาการชำระค่างวด
เพราะหากจะพิจารณาจากความเป็นจริง ลองมองย้อนกลับไปถึงการประมูลคลื่น 900 MHz เมื่อช่วงปลายปี 2558 พบว่า ราคาการประมูลคลื่น 900 MHz ของไทย แพงที่สุดในกลุ่มประเทศเอเชีย และหากเทียบกับทั่วโลก แพงที่สุดจัดอยู่ในอันดับสอง รองจากประเทศสหรัฐอเมริกา ราคาที่บริษัท แจส โมบาย บรอดแบนด์ เสนอประมูลนั้น 75,654 ล้านบาท ถือเป็นราคาเทียมที่สูงกว่าราคาตั้งต้นกว่า 6 เท่า เป็นราคาประมูลที่สูงเกินความเป็นจริและเป็นสถิติโลก...แต่สุดท้ายกลุ่มแจสก็ทิ้งคลื่นไปและถูกปรับเพียงแค่ 600 ล้านบาทเท่านั้น...แต่ผลเสียกลับตกอยู่ที่ผู้ประกอบการโทรคมนาคมสองรายที่ต้องก้มหน้าแบกรับภาระต้นทุนที่สูงเกินความเป็นจริง...
หากเรื่องนี้ รัฐบาลไม่ยื่นมือมาหาช่องทางให้ผู้ประกอบการโทรคมนาคมเดินหน้าต่อไปได้ เชื่อว่า เมื่อรัฐบาลจะเปิดประมูลคลื่น 1800 MHz ในเร็ววันนี้ คงจะไม่มีภาคเอกชนรายใดเข้าร่วมประมูล...นอกจาก ดีแทค ซึ่งก็จะไม่เกิดการแข่งขันอย่างเสรีและเป็นธรรม... เนื่องจากเอกชนทั้งสองรายใช้เงินไปหมดหน้าตักแล้ว ต้องแบกรับภาระหนี้เป็นแสนล้าน จะเป็นอุปสรรคในการกู้เพิ่ม หรือธนาคารไม่อนุมัติให้กู้อีก ซึ่งจะส่งผลเสียต่อการประมูลคลื่นใหม่ในทันที...
ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่รอการฟื้นตัวอย่างชัดเจน การค้า-การลงทุนของประเทศไทย ต้องอาศัยเทคโนโลยีการสื่อสารเข้ามาช่วยส่งเสริมและสนับสนุนอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อให้ทัดเทียมนานาประเทศ อุตสาหกรรมโทรคมนาคมของไทยถือเป็นอุตสาหกรรมหลักที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย...เชื่อว่า การหาช่องทางช่วยต่อลมหายใจให้ผู้ประกอบการโทรคมนาคมเดินหน้าต่อไปได้ ต้องอาศัยความร่วมมือและความช่วยเหลือจากทุกๆ ฝ่ายอย่างจริงจัง จะผลักภาระให้เอกชนรับผิดชอบฝ่ายเดียวคงไม่ได้ เพื่อให้ผลประโยชน์เกิดขึ้นกับประชาชนคนไทยทั้งประเทศ และทำให้เศรษฐกิจไทยกลับมาฟื้นตัวได้อย่างยั่งยืนและมั่นคง
กระบองเพชร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี