นายสตีเฟ่น แอชเวิร์ธ กรรมการผู้จัดการ บริษัทฮัทชิสัน พอร์ท ประจำประเทศไทย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดเผยว่า ปัจจุบัน ฮัทชิสัน พอร์ท(สำนักงานใหญ่ฮ่องกง) มีเครือข่ายท่าเทียบเรืออยู่ถึง 52 แห่ง ใน 26 ประเทศทั่วโลกทั้งในเอเชีย ตะวันออกกลาง แอฟริกา ยุโรป อเมริกา และออสเตรเลีย
ในส่วนของ ฮัทชิสัน พอร์ท ในประเทศไทยถือเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายท่าเทียบเรือทั่วโลก และเป็นท่าเทียบเรือที่ใหญ่ที่สุดในท่าเรือแหลมฉบังที่เป็นท่าเรือหลักในการนำเข้า และส่งออกของประเทศไทย และปัจจุบันมีจุดให้บริการในท่าเรือแหลมฉบังที่ท่าเทียบเรือ A2 ,A3 ,C1 และC2
ส่วนแผนการขยายเครือข่ายท่าเทียบเรือในไทยนั้น นายสตีเฟ่นกล่าวว่า ฮัทชิสัน อยู่ระหว่างการก่อสร้างท่าเทียบเรือ D1, D2 และ D3 เมื่อสร้างเสร็จมั่นใจว่าจะช่วยเพิ่มส่วนแบ่งตลาดของฮัทชิสัน พอร์ท ที่ท่าเรือแหลมฉบังจากปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 33% เป็น 50-55%
สำหรับการก่อสร้าง ท่าเทียบเรือชุด D ใน ท่าเรือแหลมฉบังนั้น ประกอบด้วย 3 ระยะ ได้แก่ระยะแรกก่อสร้าง D1 ,D2 และD3 ตามลำดับ โดย D1 คาดว่าจะเสร็จเรียบร้อยสามารถเปิดใช้งานได้ช่วงกลางปี 2561 นี้ มีกำหนดแล้วเสร็จทั้ง 3 ระยะในปี 2567 ใช้งบประมาณในการลงทุนประมาณ 20,000 ล้านบาท(600 ล้านเหรียญสหรัฐ) มีพื้นที่ประมาณ 476 ไร่ ส่วนความยาวหน้าท่ารวมทั้งสิ้น 1,700 เมตร มีปั้นจั่นยกตู้สินค้าหน้าท่า (super post panamax quay cranes) จำนวน 17 คัน และมีปั้นจั่นยกตู้สินค้าในลานแบบล้อยางไฟฟ้า (electric rubber tyred gantry cranes) อีกจำนวน 43 คัน ที่ได้รับการติดตั้งเทคโนโลยีควบคุมระบบปฏิบัติงานจากระยะไกล(Remote Control Technology) โดยท่าเทียบเรือชุด D จะที่เป็นท่าเทียบเรือที่ทันสมัยที่สุดในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นายสตีเฟ่นกล่าวว่า สำหรับท่าเทียบเรือชุด D ถือเป็นส่วนสำคัญภายใต้โครงการระเบียงเศรษฐกิจพื้นที่ภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor - EEC) ซึ่งเป็นโครงการภายใต้ยุทธศาสตร์ไทยแลนด์ 4.0 ที่มีเป้าที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้ทันสมัยผ่านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม
ด้าน น.ส.กัณญภัค ตันติพิพัฒน์พงศ์ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยถึงแก้ไขปัญหาความแออัดในท่าเรือแหลมฉบังว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ผู้แทน สรท. ได้เข้าพบและหารือร่วมกับผู้บริหารท่าเรือแหลมฉบังได้ข้อสรุปว่าปัญหาที่เกิดขึ้น เนื่องจากเรือขนส่งสินค้าที่เข้าไปใช้บริการในบางท่าเทียบเรือมีจำนวนมาก ส่งผลให้ท่าเทียบเรือนำอุปกรณ์ทั้งหมดไปให้บริการในกิจกรรมการยกขนสินค้าขึ้นลงเรือ ทำให้รถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ที่นำตู้สินค้าไปส่งท่าเทียบเรือไม่สามารถปฏิบัติงานได้อย่างที่ควร สรท. จึงเสนอให้การท่าเรือแหลมฉบังเร่งหารือร่วมกับผู้ให้บริการท่าเทียบเรือแก้ไขปัญหาการจราจรแออัดแล้ว ซึ่งการท่าเรือแหลมฉบังรับไว้พิจารณา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี