9 พ.ค.61 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ในฐานะประธานกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ กนศ. (บอร์ดอีอีซี) ได้ลงนามในประกาศคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก กำหนดเขตส่งเสริมอุตสาหกรรมฯ จำนวน 18 แห่ง พื้นที่กว่า 83,000 ไร่ ใน 3 จังหวัด ชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา ดังนี้
1. เขตส่งเสริมนิคมอุตสาหกรรม ซี.พี. ระยอง
2.นิคมอุตสาหกรรม ที เอฟ ดี 2 จังหวัดฉะเชิงเทรา
3. นิคมอุตสาหกรรมยามาโตะ อินดัสทรีส์ จังหวัดชลบุรี
4. นิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง
5. นิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง (แหลมฉบัง) จังหวัดชลบุรี
6. นิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง (โครงการ 3) จังหวัดชลบุรี
7. นิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง (โครงการ 4) จังหวัดชลบุรี
8. นิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง (โครงการ 5) จังหวัดชลบุรี
9. นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร
10. นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร (โครงการ 2)
11. นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้
12. นิคมอุตสาหกรรมเหมราชระยอง 36 จังหวัดระยอง
13. นิคมอุตสาหกรรมเหมราชตะวันออก (มาบตาพุด)
14. นิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด (ระยอง)
15. นิคมอุตสาหกรรมเหมราชอีสเทิร์นซีบอร์ด
16.นิคมอุตสาหกรรมเหมราชอีสเทิร์นซีบอร์ด แห่งที่ 3 จังหวัดชลบุรี
17. นิคมอุตสาหกรรมเหมราชอีสเทิร์นซีบอร์ด แห่งที่ 2 จังหวัดชลบุรี
และ 18. นิคมอุตสาหกรรมเหมราชชลบุรี แห่งที่ 2 นิคมอุตสาหกรรมเหมราชชลบุรี
มีรายงานว่า ล่าสุดราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ประกาศคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 2/2560 เรื่องการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ลงวันที่ 17 มกราคม 2560 จำนวน 18 ฉบับ กำหนดให้คณะกรรมการนโยบายมีหน้าที่และอำนาจในการกำหนดเขตส่งเสริมและสิทธิประโยชน์ที่ผู้ประกอบการ ผู้อยู่อาศัย หรือผู้พำนักในเขตส่งเสริมแต่ละแห่งจะได้รับตามความเหมาะสม
ทั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปอย่างชัดเจนอันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น อาศัยอำนาจตามความในข้อ 3 (4) ของคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 2/ 2560 เรื่องการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ลงวันที่ 17 มกราคม 2560 ประกอบกับ มติที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ในการประชุมครั้งที่ 1/2560 เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2561
อย่างไรก็ดี การประกาศเขตส่งเสริมนิคมอุตสาหกรรมเป้าหมายครั้งนี้จะครอบคลุมพื้นที่ 83,409 ไร่ พื้นที่ลงทุน 26,366 ไร่ และคาดว่าจะรองรับวงเงินลงทุนใน 10 ปีข้างหน้าได้ 1.104 ล้านล้านบาท หากรวมกับการอนุมัติเขตส่งเสริมนิคมอุตสาหกรรมเป้าหมายในการประชุมครั้งที่ 3 อีก 2 แห่ง จะครอบคลุมพื้นที่ 86,775 ไร่ เป็นพื้นที่ลงทุน 28,666 ไร่ และสามารถรองรับวงเงินลงทุนได้ 1.314 ล้านบาท
คลิกอ่านรายละเอียดประกาศทั้ง 18 ฉบับ ดังนี้
ประกาศคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก เรื่อง กำหนดเขตส่งเสริม : นิคมอุตสาหกรรมเหมราชชลบุรี
ประกาศคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก เรื่อง กำหนดเขตส่งเสริม : นิคมอุตสาหกรรมเหมราชชลบุรี แห่งที่ 2
ประกาศคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก เรื่อง กำหนดเขตส่งเสริม : นิคมอุตสาหกรรมเหมราชอีสเทิร์นซีบอร์ด แห่งที่ 2 จังหวัดชลบุรี
ประกาศคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก เรื่อง กำหนดเขตส่งเสริม : นิคมอุตสาหกรรมเหมราชอีสเทิร์นซีบอร์ด แห่งที่ 3 จังหวัดชลบุรี
ประกาศคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก เรื่อง กำหนดเขตส่งเสริม : นิคมอุตสาหกรรมเหมราชอีสเทิร์นซีบอร์ด
ประกาศคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก เรื่อง กำหนดเขตส่งเสริม : นิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด (ระยอง)
ประกาศคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก เรื่อง กำหนดเขตส่งเสริม : นิคมอุตสาหกรรมเหมราชตะวันออก (มาบตาพุด)
ประกาศคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก เรื่อง กำหนดเขตส่งเสริม : นิคมอุตสาหกรรมเหมราชระยอง 36 จังหวัดระยอง
ประกาศคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก เรื่อง กำหนดเขตส่งเสริม : นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้
ประกาศคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก เรื่อง กำหนดเขตส่งเสริม : นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร (โครงการ 2)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี