27 พ.ค.61 นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะรองโฆษกกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมมีนโยบายที่ชัดเจนในการตรึงอัตราค่าบริการทั้งในส่วนของรถโดยสารสาธารณะ รถไฟ ที่เป็นของรัฐ ไม่ให้มีผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชน และขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการภาคเอกชนให้ชะลอการปรับขึ้นค่าโดยสารที่ให้บริการทั้งในส่วนของรถร่วม องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.)ที่ให้บริการในกรุงเทพมหานครและรถร่วมบริษัท ขนส่ง จำกัด(บขส.)ที่ให้บริการระหว่างจังหวัด ตลอดจนผู้ประกอบการเรือโดยสาร ขณะนี้ได้รับความร่วมมืออย่างดีและเสียสละจากทุกภาคส่วน
ทั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลในการดูแลอัตราค่าครองชีพของประชาชนไม่ให้สูงขึ้นในขณะนี้โดยจะหารือกับหน่วยงานที่รับผิดชอบให้หาแนวทางมาตรการเยียวยาช่วยเหลือผู้ประกอบการในด้านอื่น ๆ ต่อไป
ส่วนการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)เสนอขอปรับค่าบริการรถไฟชั้น3 ต่อคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ภายใต้แผนฟื้นฟูนั้น เป็นเพียงผลการศึกษาในการฟื้นฟูกิจการรถไฟฯ ไม่ได้ปรับค่าโดยสารชั้น 3 มาโดยตลอดระยะเวลากว่า 30 ปีที่ผ่านมาเท่านั้น และไม่มีผลในการปฏิบัติขณะนี้แต่อย่างใด เนื่องจากการปรับค่าโดยสารชั้น 3 ยังไม่มีการเสนอคณะกรรมการบริหารรถไฟให้ความเห็นชอบ ดังนั้นจึงไม่ใช่ความจริงที่จะปรับขึ้นราคาในเวลานี้
นายสรพงศ์ กล่าวว่า ในส่วนของการปรับราคาค่าโดยสารของสายการบินไทยเที่ยวบินระหว่างประเทศนั้น ขอชี้แจงว่าโครงสร้างราคาค่าโดยสารเที่ยวบินระหว่างประเทศมีโครงสร้างราคาที่แปรผันตามโครงสร้างราคาน้ำมันตลาดโลกที่เป็นโครงสร้างราคาที่เป็นสากลทั่วไปที่สายการบินพาณิชย์ทั่วโลกปฏิบัติ ซึ่งน้ำมันตลาดโลกลดลงในช่วงเวลาที่ผ่านมาค่าโดยสารมีราคาลดต่ำลง ดังนั้นกระทรวงคมนาคมและ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) จะร่วมมือกันไม่ให้ค่าแปรผันราคาน้ำมันมีผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวมของในประเทศตามนโยบายของรัฐบาลต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี