28 พ.ค.61 นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ชี้แจงกรณีกระแสข่าวโซเชียลโจมตี ปตท.ขายน้ำมันแพงเกินจริง ว่า ธุรกิจน้ำมันเป็นธุรกิจที่มีการลงทุนสูง ปตท.มีสินทรัพย์ 2.3 ล้านล้านบาท มียอดขาย 2 ล้านล้านบาท/ปี ดังนั้นหากมีกำไร 1.3 แสนล้านบาท จะคิดเป็นผลตอบแทนจากสินทรัพย์ (ROA) 6.7% ซึ่งถ้ามีการเปรียบเทียบกับบริษัทชั้นนำถือว่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของการทำธุรกิจทั่วไป
ทั้งนี้ แม้ ปตท.จะเป็นบริษัทขายน้ำมัน แต่ก็ไม่ได้ต้องการเห็นราคาน้ำมันในประเทศแพง เพราะจะส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค ผู้ค้า (ดีลเลอร์) สังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งตั้งแต่วันที่ 6 เม.ย. - 28 พ.ค.ที่ผ่านมา ปตท.ได้ปรับขึ้นราคาน้ำมัน 6 ครั้ง และปรับลง 1 ครั้ง โดยใน 50 วันนี้ปตท.ขายน้ำมันถูกกว่าปั๊มต่างชาติ 9 วัน
นอกจากนี้ ในปี 2560 ที่ผ่านมา ปตท.มีการปรับราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น 21 ครั้ง ปรับลดลง 21 ครั้ง ซึ่งราคาน้ำมัน ปตท.ตลอดทั้งปี หรือ 365 วันปรากฏว่า ปตท.ขายน้ำมันถูกกว่าปั๊มต่างชาติ 20 วัน ดังนั้น ข้อมูลมีผู้กล่าวหาในโซเชียลจึงไม่เป็นความเป็นจริง และยืนยันว่า ปตท.ไม่มีการปรับลดพนักงานแต่อย่างใด ขณะนี้จึงให้ฝ่ายกฎหมายดำเนินการเอาผิดกับผู้ที่มีเจตนาไม่หวังดีส่งข้อมูลอันเป็นเท็จสร้างความเสียหายแก่องค์กร
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะประเมินผลกระทบต่อยอดขายจากกระแสโซเชียลที่ต่อต้านการเติมน้ำมันในปั๊ม ปตท.โดยปัจจุบัน ปตท.มีปั๊มอยู่ทั้งสิ้นประมาณ 1,500 แห่ง ซึ่ง 90% เป็นดีลเลอร์ มีเพียง 10% เป็นปั๊มที่ ปตท.ดำเนินเอง ดังนั้น จึงมีความเป็นห่วงดีลเลอร์จำนวนมากที่อาจได้รับผลกระทบมากกว่า ทาง ปตท.จึงอยากชี้แจงให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารที่เป็นจริงเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง
ในวันนี้ ปตท.ได้มีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมระหว่าง บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กับธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) , ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) , ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) , ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) , ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) , ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) , ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) , ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) และธนาคารออมสิน เพื่อร่วมกันวางแผนและพัฒนานวัตกรรมด้านการเงิน ซึ่งเป็นหนึ่งในกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศตามนโยบาย "ไทยแลนด์ 4.0" เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการทำธุรกรรมทางการเงินอย่างเป็นรูปธรรม
นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่เทคโนโลยีและวิศวกรรม ปตท.กล่าวว่า ความร่วมมือด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมระหว่าง ปตท.กับทั้ง 9 ธนาคาร ถือเป็นความตั้งใจของ ปตท.เพื่อร่วมผลักดันนโยบาย "ไทยแลนด์ 4.0" ของภาครัฐ ที่มุ่งปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจไปสู่เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมโดยความร่วมมือในครั้งนี้มุ่งเน้นส่งเสริมและผลักดัน การพัฒนาระบบ และนวัตกรรมทางการเงินของทั้งสองฝ่าย เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจ สร้างความเชื่อมั่นใน การดำเนินงาน นำไปสู่การต่อยอดและขยายการดำเนินงานในเชิงพาณิชย์ต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี