นายมงคล พฤกษ์วัฒนา อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีปริมาณการนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ หรือ อีเวสท์ (E – Waste) ประมาณ 53,000 ตันต่อปี โดยนำเข้ามาบำบัดและแปรรูปในโรงงานที่ได้รับการอนุญาต จำนวนทั้งสิ้น 7 โรงงาน จากจำนวนทั้งหมด 148 โรงงานที่มีการรีไซเคิลขยะอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งในจำนวนนี้มีสถานประกอบการที่เป็นทั้งโรงงานกำจัด โรงงานคัดแยก และโรงงานสกัดโลหะมีค่านำมากลับไปใช้ใหม่
สำหรับขยะดังกล่าวกว่า 98% ประกอบด้วย 3 ชนิด ได้แก่ 1. โทรศัพท์มือถือ 2. แผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ และ 3. คอมพิวเตอร์ โดยในปีที่ผ่านมาพบว่าขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่นำเข้ามารีไซเคิลมีการนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น ฮ่องกง และประเทศสิงคโปร์
ทั้งนี้วัสดุ วัสดุโลหะ เหล็ก อะลูมิเนียม และโลหะอื่นๆมีประมาณ 58% ส่วนวัสดุประเภทพลาสติก ประมาณ 40% ซึ่งวัสดุเหล่านี้จะถูกนำมาอัดเป็นก้อน เพื่อเตรียมพร้อมส่งจำหน่ายต่อไปยังโรงงานที่มีศักยภาพ เช่น โรงหลอมโลหะ หรือโรงงานผลิตเม็ดพลาสติก โดยราคาจำหน่ายขึ้นอยู่กับราคาการซื้อขายเศษวัสดุในท้องตลาด และอีกประมาณ 2% เป็นวัสดุชิ้นส่วนและแผงวงจรไฟฟ้า (PCBA) แผงวงจรจากอุปกรณ์ไอทีขนาดเล็ก โทรศัพท์มือถือ เครื่องคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ค เป็นต้น หลังจากการดำเนินการถอดแยกตามเกรดแล้ว จะส่งเข้าสู่กระบวนการบดย่อยเพื่อลดขนาดและเตรียมพร้อมสำหรับกระบวนการหลอมและสกัดโลหะมีค่า อาทิ ทองคำ ทองแดง เพื่อนำสู่กระบวนการผลิตเดิมในโรงงาน ทั้งนี้กรมโรงงาน จะควบคุมและส่งเสริมการกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์เป็นไปอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี