เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2561 สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) แถลงตัวเลขการส่งออก ที่ อาคารลุมพินีทาวเวอร์
นางสาวกัณญภัค ตันติพิพัฒนพงศ์ประธานสรท. กล่าวว่า การส่งออกเดือนเมษายน 2561 มีมูลค่า 18,946 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวต่อเนื่องในระดับสูงเป็นเดือนที่ 14 ที่12.3% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ขณะที่การส่งออกในรูปเงินบาทเท่ากับ 586,314 ล้านบาทขยายตัว 0.8% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อน
ด้านการนำเข้าในเดือนเมษายน 2561 มีมูลค่า 20,229 ล้านดอลลาร์สหรัฐขยายตัว 20.4% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันปีก่อน (YoY) และการนำเข้าในรูปของเงินบาทมีมูลค่า 634,973 ล้านบาทขยายตัว 8.2% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันปีก่อน (YoY) ส่งผลให้เดือนเมษายน 2561 ประเทศไทยขาดดุลการค้า 1,283 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 48,659 ล้านบาท
“การส่งออกของไทยในเดือนเมษายนปี 2561 สูงเป็นลำดับที่ 2 ในกลุ่มประเทศอาเซียน แซงหน้าประเทศเวียดนามทั้งนี้ เกิดจากปัจจัยที่พื้นฐานเศรษฐกิจของทั้งประเทศคู่ค้าหลักและรองยังคงมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง”
โดยการส่งออกของไทยสามารถกระจายการขยายตัวได้ดีในทุกตลาดสำคัญทั้งตลาดหลัก, ตลาดรอง และตลาดศักยภาพ อาทิ สหภาพยุโรป(15), ญี่ปุ่น, อินเดีย, CLMV (กัมพูชา-ลาว-เมียนมา-เวียดนาม) นอกจากนี้พบว่าตลาดจีน กลับมาขยายตัวสูงสุดในรอบ 8 เดือน ที่19.9% หลังจากหดตัวเนื่องจากสถานการณ์ราคายางตกต่ำเป็นเวลานาน กลุ่มสินค้าเกษตรฯ กลับมาขยายตัวที่ 9.8% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันปีก่อน (YoY) โดยข้าวผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังผักผลไม้สดแช่แข็งและแปรรูป และไก่สดแช่แข็งและแปรรูป เป็นกลุ่มสินค้าที่ยังคงมีการขยายตัวทั้งในด้านราคาและปริมาณ ยกเว้น ยางพาราที่มีการหดตัวจากการลดลงของราคายาง และน้ำตาลที่มีปริมาณอุปทานล้นตลาดและราคาตกต่ำ
ขณะที่กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมยังคงขยายตัวในระดับสูงอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 14 ที่ 12.2% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันปีก่อน (YoY) โดย กลุ่มสินค้าที่มีการขยายตัวในระดับสูง ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ น้ำมันสำเร็จรูป และเม็ดพลาสติก
“สภาผู้ส่งออกฯ ยังคงคาดการณ์มูลค่าการส่งออกไทยในปี 2561 เติบโตเท่ากับ 8% โดยยังคงสมมุติฐานค่าเงินบาทอยู่ที่ 31.5 (+ 0.5) บาทต่อเหรียญสหรัฐ”
อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่อาจเป็นอุปสรรคต่อการส่งออกประกอบด้วย1.ความผันผวนของค่าเงินบาท 2.สงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ (Trade War) แม้มีแนวโน้มคลี่คลายลงแล้ว 3.ปัญหาความขัดแย้งในตะวันออกกลางและมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านของสหรัฐ ทำให้ราคาน้ำมันและราคาก๊าซหุงต้มปรับตัวขึ้น ฯลฯ พร้อมแนะภาครัฐควรส่งเสริมการค้าแบบ e-Commerce ให้ครอบคลุมสินค้าเกษตร และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ตามฤดูกาลมาก, ควรติดตามมาตรการกีดกันทางการค้า, เร่งรัดการเพิ่มประสิทธิภาพการยกขนตู้สินค้าภายในท่าเรือแหลมฉบัง และอื่นๆ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี